ปากว่าตาขยิบ! ไบเดนขู่ปรับนโยบาย หากอิสราเอลไม่ปกป้องพลเรือน แต่ไฟเขียวส่งระเบิดเพิ่ม

ปากว่าตาขยิบ! ไบเดนขู่ปรับนโยบาย หากอิสราเอลไม่ปกป้องพลเรือน แต่ไฟเขียวส่งระเบิดเพิ่ม

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ได้โทรศัพท์หารือกับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เมื่อวันที่ 4 เมษายน ซึ่งเป็นการพูดคุยกันครั้งแรกระหว่างผู้นำทั้งคู่ หลังเกิดเหตุโจมตีขบวนรถของผู้ส่งมอบความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมจากองค์กร World Central Kitchen จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย กลายเป็นแรงกดดันครั้งใหม่ที่หนักหน่วงกว่าเดิมที่สองพันธมิตรสำคัญกำลังเผชิญอยู่ต่อการทำสงครามในฉนวนกาซา

หลังการหารือนานราว 30 นาที ทำเนียบขาวระบุว่าไบเดนได้กล่าวกับเนทันยาฮูว่านโยบายของสหรัฐต่ออิสราเอลขึ้นอยู่กับการคุ้มครองพลเรือนในฉนวนกาซา ซึ่งถือเป็นถ้อยคำที่รุนแรงที่สุดเกี่ยวกับการตั้งเงื่อนไขในการให้ความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐต่ออิสราเอลในสงครามที่ยาวนานเข้าสู่เดือนที่ 6 นี้

ทำเนียบขาวกล่าวว่า ไบเดนได้พูดอย่างชัดเจนถึงความจำเป็นที่อิสราเอลจะต้องประกาศและดำเนินการตามขั้นตอนที่เฉพาะเจาะจง เป็นรูปธรรม และสามารถวัดผลได้ เพื่อจัดการกับอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับพลเรือน ความทุกข์ทรมานด้านมนุษยธรรม และความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์

Advertisement

แถลงการณ์ของทำเนียบขาวบอกด้วยว่า ไบเดนได้ระบุอย่างชัดเจนว่านโยบายของสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับฉนวนกาซา จะถูกกำหนดโดยการประเมินการดำเนินการทันทีของอิสราเอลในขั้นตอนเหล่านี้

นายจอห์น เคอร์บี โฆษกฝ่ายความมั่นคงของทำเนียบขาว ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ เป็นการเฉพาะ ที่สหรัฐจะดำเนินการในนโยบายที่มีต่ออิสราเอลและฉนวนกาซา โดยระบุว่าสหรัฐหวังว่าจะเห็นการประกาศเกี่ยวกับก้าวย่างต่อไปของอิสราเอลในอีกไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วันข้างหน้า

ไบเดนซึ่งเป็นผู้ที่สนับสนุนอิสราเอลมาตลอดชีวิตได้เผชิญกับแรงกดดันที่จะให้ระงับความช่วยเหลือหรือระงับการขนส่งอาวุธไปให้อิสราเอล ทั้งจากประชาคมโลกและแรงกดดันภายในพรรคเดโมแครตที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ยุติการสังหารและการบรรเทาความหิวโหยในหมู่พลเรือนผู้บริสุทธิ์

Advertisement

นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า อิสราเอลจะต้องเผชิญกับช่วงเวลานี้ด้วยการเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและรับรองความปลอดภัยของผู้ที่เข้าไปให้การบรรเทาทุกข์ และหากเราไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เราจำเป็นต้องเห็น ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของเรา

อย่างไรก็ดีเมื่อฟ็อกซ์นิวส์ได้สอบถามทาล ไฮน์ริช โฆษกของนายเนทันยาฮู ถึงความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐต่ออิสราเอล ไฮน์ริชตอบว่า เขาคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่สหรัฐจะต้องอธิบายเอง

กระนั้นก็ดี ในวันที่ 4 เมษายนอิสราเอลระบุว่าจะปรับยุทธวิธีในการทำสงครามในฉนวนกาซา หลังพูดถึงการโจมตีขบวนรถของอันเป็นผลจากการระบุตัวตนที่ไม่ถูกต้อง พร้อมทั้งยืนยันว่าจะมีการเปิดเผยผลการสอบสวนต่อสาธารณะในเร็วๆ นี้

ท่ามกลางการแสดงท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐต่ออิสราเอล สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่าเมื่อเร็วๆ นี้ฝ่ายบริหารภายใต้การนำของไบเดนเพิ่งจะอนุญาตให้มีการถ่ายโอนระเบิดขนาด 500 ปอนด์มากกว่า 1,000 ลูก และระเบิดขนาดเล็กมากกว่า 1,000 ลูกเพิ่มเติมให้กับอิสราเอล แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินการของอิสราเอลต่อสงครามในฉนวนกาซาก็ตาม

แหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับเรื่องดังกล่าวระบุว่า การอนุมัติส่งมอบอาวุธเพิ่มเติมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนที่อิสราเอลจะโจมตีขบวนรถเพื่อมนุษยธรรมในฉนวนกาซาในเย็นวันเดียวกัน

ซีเอ็นเอ็นชี้ว่า แม้การอนุมัติดังกล่าวจะเกิดขึ้นก่อนการโจมตีขบวนรถ WCK แต่มันก็เกิดขึ้นหลังจากที่มีเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์มากกว่า 190 ชีวิตที่ถูกสังหารในฉนวนกาซาและเขตเวสต์แบงก์ในสงครามครั้งนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image