สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัปม์ ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐอเมริกาได้ตั้ง “จีนา ฮาสเปล” ผู้มีประสบการณ์ในปฏิบัติการลับของสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (ซีไอเอ) และเคยป็นหัวหน้า “คุกลับในไทย” ขึ้นเป็น “รองผู้อำนวยการซีไอเอ” หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ ภายใต้การนำของ ไมค์ ปอมเปโอ ผอ.ซีไอเอคนล่าสุด
รายงานระบุว่า “ฮาสเปล” เจ้าหน้าที่ประสบการณ์สูงที่ผ่านปฏิบัติการลับของซีไอเอเข้าร่วมหน่วยงานข่าวกรองตั้งแต่ปี 2528 และเคยรับทำงานในหลายประเทศทั่วโลก และเธอเคยได้รับแต่งตั้งผู้อำนวยการปฏิบัติการลับซีไอเอในปี 2556 แต่ต้องถูกแทนที่ในช่วงเวลาเพียงสัปดาห์เดียวเนื่องจาก “ฮาสเปล” เคยดำรงตำแหน่งระดับสูงในหน่วยงานที่รับผิดชอบการสอบสวนสุดโหดหรือที่ได้รับขนานนามว่า “แบล็คไซท์” หลังเหตุการณ์ 9/11 หนึ่งในนั้นรวมถึง คุกลับในประเทศไทย ที่มีรายงานว่ามีการสอบสวนผู้สังสงสัยจากกลุ่มอัลเคด้า ด้วยการทรมานด้วยวิธีการอันโหดร้ายเช่นการ “วอเทอร์บอร์ดดิ้ง” หรือการกรอกน้ำให้ปิดทางเดินหายใจ
เดอะวอชิงตันโพสต์ เคยรายงานด้วยว่า “ฮาสเปล” มีส่วนในการทำลายวิดีโอเทป ที่บันทึก “การสอบสวนพิเศษ” ที่ทำกับผู้ที่ถูกควบคุมตัวเอาไว้ในประเทศไทยด้วย
อย่างไรก็ตาม ปอมเปโอ ผอ.ซีไอเอคนปัจจุบันชื่นชมฮาสเปลว่า เป็นเจ้าหน้าที่ข่าวกรองที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง และเป็นคนรักชาติที่ทุ่มเทที่นำประสบการณ์ 30 ปีในซีไอเอมาใช้ในงาน
“เธอยังเป็นผู้นำที่ผ่านบทพิสูจน์ที่ความสามารถพิเศษในการทำให้งานสำเร็จ และเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนรอบข้าง” ปอมเปโอ ระบุ
ทั้งนี้ การแต่งตั้งฮาสเปลในครั้งนี้ มีขึ้นท่ามกลางความห่วงกังวลว่า หน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐในยุครัฐบาลของทรัมป์นั้นจะหันไปใช้วิธีการนอกกฎหมายในการจับกุมคุมขังและทรมานผู้ถูกจับกุม ขณะที่ทรัมป์ เคยระบุไว้ว่า การทรมานนั้นได้ผล แต่ตนก็จะฟังคำแนะนำของ เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ผู้ที่เคยประกาศว่าไม่เห็นด้วยกับการทรมาน
