โลกผวา! โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่สุดยุโรปเจอโดรนถล่ม IAEA ชี้เหตุร้ายแรง รัสเซียโทษฝีมือยูเครน
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียในยูเครนที่ขณะนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย ได้รับความเสียหายเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา หลังถูกโจมตีด้วยโดรนหลายลำ
ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ชี้ว่า การโจมตีดังกล่าวถือเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะบ่อนทำลายระบบกักเก็บเครื่องปฏิกรณ์ อย่างไรก็ดีความเสียหายที่โรงงานดังกล่าวในขณะนี้ ยังไม่ได้กระทบต่อความปลอดภัยทางนิวเคลียร์แต่อย่างใด
ราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการใหญ่ไอเออีเอระบุว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นครั้งนี้มีการโจมตีโดยตรงต่อห้องกักเก็บเครื่องปฏิกรณ์หลักของโรงงานถึง 3 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิต 1 รายจากการโจมตีดังกล่าว
“นี่เป็นการละเมิดพื้นฐานในการปกป้องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอย่างชัดเจน การโจมตีโดยประมาทดังกล่าวเพิ่มความเสี่ยงอย่างมากต่ออุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ และมันจะต้องยุติลงทันที” กรอสซีกล่าว
กรอสซีย้ำว่า ไม่มีใครที่จะได้ประโยชน์หรือได้เปรียบทางทหารหรือทางการเมืองจากการโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ สิ่งนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นต่อไป โดยเขาเรียกร้องอย่างแข็งขันต่อผู้มีอำนาจตัดสินใจทางทหาร ให้ละเว้นจากการกระทำใดๆ ที่ละเมิดหลักการพื้นฐานในการปกป้องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
ทางการรัสเซียกล่าวหาว่ากองทัพยูเครนเป็นผู้ทำการโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ โดยใช้โดรนที่ระเบิดตัวเอง เบื้องต้นมีรายงานด้วยว่ารถขนถ่ายอาหารได้รับความเสียหาย และยังมีการโจมตีของโดรนที่ท่าเรือขนส่งสินค้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีกด้วย
แถลงการณ์ของรัสเซียระบุด้วยว่าการยิงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และโครงสร้างพื้นฐานเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เพราะไม่มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใดในโลกที่ได้รับการออกแบบให้รับมือกับการยิงเต็มรูปแบบจากกองทัพ ความเสียหายต่อสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐานยังอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานที่ปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีกด้วย
อังเดร ยูซอฟ โฆษกหน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงของยูเครนออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัสเซีย โดยยืนยันว่ายูเครนไม่มีส่วนร่วมใดๆ ในการโจมตีที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งระบุด้วยว่ารัฐผู้รุกรานเป็นอันตรายทั้งต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ต่อพลเรือน และต่อสิ่งแวดล้อมของยุโรปทั้งหมดอีกครั้ง
