อดีตที่ปรึกษารมว.กต.ชี้ เมียวดียังไม่แตก ชี้จะวิจารณ์ต้องคำนึงถึงความละเอียดอ่อน
นางพรพิมล กาญจนลักษณ์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนพิเศษของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศด้านเมียนมาในสมัยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
เมียวดียังไม่แตก กองทัพเมียนมาเพลี่ยงพล้ำจริง แต่ยังมีทหารอยู่ที่เมียวดีอยู่อีก 1 กองพล ทว่าการสู้รบซึ่งมีต่อเนื่องมาหลายเดือน พื้นที่ที่จะเข้าถึงเมียวดีจากทางตะวันตกก็เป็นภูเขาจึงยากต่อการลำเลียงกำลังและอาวุธเข้าไปเพิ่มในบริเวณเมียวดี และชนกลุ่มน้อย BGF (กองกำลังพิทักษ์ชายแดน) ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นกองคุ้มกันให้กองทัพเมียนมา บัดนี้ได้เปลี่ยนใจไปร่วมกับ KNU (สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง) แล้วก็เป็นการยากที่กองทัพจะกลับมามีชัยได้อีก
การตอบโต้นั้นไม่ยาก แต่การจะเอาเครื่องบินมาทิ้งระเบิดกองกำลัง KNU ก็เสี่ยงกับการที่ทั้งระเบิดและเครื่องบินจะล้ำเขามาในฝั่งไทย ซึ่งรัฐบาลเมียนมาไม่ต้องการให้เกิด ครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้นฝ่ายไทยก็ได้แจ้งเป็นทางการไปว่าไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก ดังนั้นทางที่เหลืออยู่คือการเจรจาระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่ม KNU
ผลเสียกับประเทศไทยนั้นมากกว่าผลเสียของเมียนมา เพราะนอกจากจะมีปัญหาเรื่องความมั่นคงที่ชายเเดนแล้ว การค้าขายที่ใช้เส้นทางจากจังหวัดตากผ่านเมียวดีก็จะลำบากขึ้น เพราะต้องเจรจากับ KNU จึงอยากให้ไปสอบถามคนที่เคยเจรจาเปิดทางขนส่งกับ KNU ว่าลำบากมากน้อยเพียงใด แต่ขณะนี้รถขนส่งจากตากเข้าเมียวดีก็ยังวิ่งได้อยู่ หากด่านนี้ต้องปิดลงในที่สุด ไทยก็สามารถใช้เส้นทางอื่นได้ เช่น ท่าขี้เหล็ก เกาะสองที่ระนอง บ้านทิกิ น้ำพุร้อน ด่านสิงขร มอตอง (ประจวบคีรีขันธ์) ได้ แม้จะไม่ตรงและไม่สะดวกเท่าเมียวดี แต่ยังมีช่องทางให้การค้าขายระหว่างไทยและเมียนมาไม่ต้องหยุดชะงัก และขอยืนยันว่ากรุงเนปยีดอไม่ได้ถูกปิดล้อม ทุกอย่างยังเป็นปกติ การนำเสนอข่าวและการวิพากษ์จากทางไกลนั้นจึงควรคำนึงถึงข้อเท็จจริงอย่างละเอียดลออและทุกมิติด้วย
