ยกเลิกไม่บินแล้ว!! กต.เผยเมียนมา ใช้เที่ยวบินพิเศษมาแม่สอดแค่ 1 เที่ยว แจงอนุญาตเพราะมนุษยธรรม

ยกเลิกไม่บินแล้ว!! กต.เผยเมียนมา ใช้เที่ยวบินพิเศษมาแม่สอดแค่ 1 เที่ยว แจงอนุญาตเพราะมนุษยธรรม 

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 8 เมษายน ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายธนวัต ศิริกุล รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงเกี่ยวกับการอนุมัติเที่ยวบินพิเศษของเมียนมาที่ท่าอากาศยานแม่สอดว่า ตามที่ปรากฏข่าวการอนุมัติเที่ยวบินพิเศษของเมียนมามาที่ท่าอากาศยานแม่สอดเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2567 นั้น กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้

กระทรวงการต่างประเทศได้รับคำขอจากสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทยเมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2567 ขออนุมัติเที่ยวบินพิเศษ จำนวน 3 เที่ยว สำหรับวันที่ 7, 8 และ 9 เมษายน 2567 ส้นทางย่างกุ้ง-แม่สอด เพื่อขอขนส่งผู้คนและสิ่งของ

ภายหลังได้รับคำขอดังกล่าวและเมื่อคำนึงถึงสถานการณ์ที่มีความเร่งด่วนและมีความเป็นไปได้ที่อาจต้องมีการอพยพบุคลากรของเมียนมาพร้อมครอบครัวไปยังพื้นที่ปลอดภัย จึงมีการตัดสินใจในระดับรัฐบาลที่จะอนุมัติคำขอของเมียนมาด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม

Advertisement

ต่อมาสภาความมั่นคงแห่งชาติได้จัดการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินการในเรื่องนี้ เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ที่ผ่านมาไทยให้ความช่วยเหลือทุกฝ่ายในเมียนมาตามหลักมนุษยธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติ โดยหน่วยงานความมั่นคงมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการบริหารจัดการ หากเกิดกรณีที่มีผู้บาดเจ็บ หรือผู้ที่ขออพยพข้ามแดนมาฝั่งไทย โดยจะไม่อนุญาตให้มีการนำอาวุธจากฝั่งใดๆ เข้ามายังฝั่งไทย

เมื่อวันที่ 7 เมษายน ได้มีเที่ยวบิน 1 เที่ยวบินจากเมียนมามาลงที่ท่าอากาศยานแม่สอดตามคำขอ และได้เดินทางออกนอกประเทศไทยไปแล้วในวันเดียวกัน และล่าสุดฝ่ายเมียนมาได้แจ้งขอยกเลิกเที่ยวบินที่เหลือสำหรับวันที่ 8 และ 9 เมษายน 2567 แล้ว ขณะนี้รัฐบาลได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา โดยเฉพาะบริเวณเมืองเมียวดีอย่างใกล้ชิด และมีความพร้อมที่จะดำเนินการที่จำเป็นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน รวมทั้งปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทย พรุ่งนี้ วันที่ 9 เมษายน 2567 จะมีการประชุมหารือที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อประเมินสถานการณ์และกำหนดแนวทางการดำเนินการของไทยต่อไป

นายธนวัตให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังแถลงข่าวว่า ภารกิจหลักของรัฐบาลคือดูแลผลประโยชน์ของประเทศชาติและคนไทยเป็นหลัก ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ตนเชื่อว่าการดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนและความมั่นคงปลอดภัยของพี่น้องชาวไทย เป็นสิ่งที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงของไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

Advertisement

เมื่อถามว่า การขออนุญาตลงจอดที่สนามบินแม่สอดในครั้งนี้ ถูกต้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศหรือไม่ นายธนวัตกล่าวว่า ตามธรรมเนียมปฏิบัติจะมีการแลกเปลี่ยนบันทึกทางการทูตระหว่างกัน และมีการอนุมัติกันไป ตนคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่เราทำกันอยู่กับประเทศเพื่อนบ้าน

“เป็นที่รู้กันดีว่าเราอยู่ร่วมกันมานาน เราก็ต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเมื่อจำเป็นเร่งด่วน เราเห็นแล้วว่าเขามีเหตุที่ขอมา และอยู่ในวิสัยที่สามารถอนุมัติได้ ก็คิดว่าปกติ และหากเราขอความร่วมมือจากประเทศชายแดนเพื่อนบ้านเช่นนี้ เราก็คงคาดหวังว่าเขาจะพิจารณาด้วยดีเช่นกัน” นายธนวัตกล่าว

นายธนวัตกล่าวอีกว่า ตนคิดว่าการตัดสินใจครั้งนี้ก็เป็นไปตามช่องทางที่ทางเมียนมาติดต่อมา คือสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทยส่งบันทึกให้กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อถามว่า เมียนมาได้แจ้งสาเหตุของการยกเลิกเที่ยวบินหรือไม่ นายธนวัต กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ แต่คิดว่าอาจจะมีการหารือกันต่อไปในอนาคต

เมื่อถามว่า ยังมีความกังวล หากทางการเมียนมาขนย้ายสิ่งของไปแล้ว จะมีการเอาคืนชนกลุ่มน้อยจนทำให้กระทบฝั่งไทย นายธนวัตกล่าวว่า ในฐานะรองโฆษกกระทรวงตนอาจจะตอบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของการคาดการณ์ไปล่วงหน้า

เมื่อถามย้ำว่า จะมีความรุนแรงหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวว่ามีการปูพรมน่านฟ้า กระทรวงการต่างประเทศจะมีแนวทางดูแลคนที่อยู่ชายแดนอย่างไร นายธนวัตกล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงของเรามีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ความจำเป็นเร่งด่วนที่สุดก็คือผลประโยชน์ของประเทศไทย และความอยู่รอดปลอดภัยของพี่น้องชาวไทย เราเองก็มีแนวปฏิบัติของเรา ถ้าเป็นด้านมนุษยธรรม ถ้ามีใครขอเข้ามาก็มีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนว่าห้ามเอาอาวุธเข้ามา ส่วนเรื่องอื่นถ้าเกิดขึ้น แล้วส่งผลกระทบต่อพี่น้องชาวไทยในชายแดน เราก็มีมาตรการรองรับอยู่แล้วเรื่องนี้ฝ่ายความมั่นคงดูแลอย่างใกล้ชิด ตนคิดว่าพรุ่งนี้เช้าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบจะมีการหารือนั้น จะมีการพูดคุยเรื่องนี้กัน

ส่วนเรื่องนี้จะเป็นอุปสรรคต่อโครงการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมหรือไม่ นายธนวัตกล่าวว่า ก็คงมีข้อคำถามมากขึ้น แต่ตอนนี้อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ เรื่องการกำหนดนโยบายหรือแนวทางปฏิบัติต่างๆ คงต้องประเมินว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด และจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เป็นหน้าที่ของผู้บริหารในระดับสูงที่จะพูดคุยกัน เพราะจะเป็นการร่วมมือกันหลายฝ่าย

ส่วนเรื่องการอพยพมีการเตรียมแผนไว้หรือไม่ นายธนวัตระบุว่า พรุ่งนี้คงมีการประเมินสถานการณ์ หากเลวร้ายลงจะไปในแนวทางไหน ตนเชื่อว่าฝ่ายความมั่นคงมีแผนอยู่แล้ว ทั้งนี้ ต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งพรุ่งนี้จะมีหน่วยงานความมั่นคงเป็นหลักในการประชุม

เมื่อถามว่า ไทยจะมีการปรับบทบาทเข้าไปดูแลโดยที่ไม่ผิดหลักการแทรกแซงได้อย่างไร นายธนวัตกล่าวว่า ตอนนี้เราดูแลเรื่องมนุษยธรรมเพราะมีผู้ได้รับผลกระทบอย่างจริงจัง ส่วนเรื่องในอนาคตคงต้องมีการมาพูดคุยกันว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำความเข้าใจกับชาติอื่นในอาเซียนอย่างไร นายธนวัตกล่าวว่า ตนคิดว่าจุดยืนของไทยค่อนข้างชัดเจนว่ามีคำขอเข้ามา และเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน เป็นเรื่องมนุษยธรรม จึงค่อนข้างที่จะเป็นปกติ เพราะเราอยู่ประเทศเพื่อนบ้านกัน มีการแลกเปลี่ยนกันไปมาอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า มั่นใจว่าไม่มีการยักย้ายถ่ายเทอาวุธใช่หรือไม่ นายธนวัตกล่าวว่า ตนเชื่อมั่นว่ามีการปฏิบัติตามแนวทางปฎิบัติของเราอย่างเคร่งครัด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ การติดต่อทางการทูตเป็นเรื่องที่เราทำเป็นประจำอยู่แล้ว หากมีการลักลอบดำเนินการ ทางฝ่ายเราเองก็ต้องติดตามและตรวจสอบอย่างใกล้ชิด และดำเนินการตามสิ่งที่เกิดขึ้นตามข้อมูลติดตามเหตุที่เกิดขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image