รับความท้าทายจีน! ว่าที่ปธน.ไต้หวัน ตั้งครม.-ทีมความมั่นคง ก่อนรับตำแหน่งทางการ 20 พ.ค.
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ในวันพฤหัสบดี(25 เม.ย.)นี้ นายไล่ ชิงเต๋อ ว่าที่ประธานาธิบดีไต้หวันคนใหม่ ได้แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีและคณะทำงานด้านความมั่นคง ในขณะที่เขากำลังเตรียมตัวทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันคนใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 พฤษภาษคมนี้
นายไล่กล่าวในการแต่งตั้งคณะทำงานในรัฐบาลภายใต้การนำของตนเองว่า ไต้หวันกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน “ในการเผชิญกับลัทธิเผด็จการที่เพิ่มขึ้นและการกดดันเข้าใกล้มากขึ้นของจีน คณะทำงานด้านความมั่นคงแห่งชาติจะต้องไม่หลบเลี่ยงความรับผิดชอบของตนเอง ต้องยึดมั่นในอนาคตของประเทศเป็นภารกิจของตนเอง และจะต้องแบกรับหน้าที่ในการปกป้องประเทศของเรา”
นายไล่ ว่าที่ประธานาธิบดีไต้หวันคนใหม่ที่ถูกจีนตราหน้าว่าเป็น “พวกแบ่งแยกดินแดนตัวอันตราย” ได้แต่งตั้งนายเวลลิงตัน คู หัวหน้าสภาความมั่นคงแห่งชาติ ขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ของไต้หวัน โดยนายคูกล่าวว่า ไต้หวันเป็น”ตัวเชื่อมโยงสำคัญที่สุด” ในการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค และไต้หวันจำเป็นต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาการป้องปรามร่วมกัน
“เป้าหมายหลักของเราคือการทำให้การคาดการณ์ของอีกฝ่ายในช่องแคบไต้หวันซับซ้อนยุ่งยากขึ้น และทำให้ตารางเวลาของจีนสำหรับปฏิบัติการทางทหารที่ไม่ยั้งคิดอยู่ตลอดเวลาต้องเลื่อนออกไปเพื่อรักษาเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน” นายคูกล่าว
นอกจากนี้นายไล่ยังแต่งตั้งนายโจเซฟ อู๋ รัฐมนตรีต่างประเทศของไต้หวัน ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสภาความมั่นคงแห่งชาติ และให้นายหลิน เจียหลุง เลขาธิการใหญ่สำนักงานประธานาธิบดี เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศแทน
ที่ผ่านมาจีน ซึ่งถือไต้หวัน เป็นจังหวัดหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่ ประกาศกร้าวมาตลอดในการจะรวมไต้หวัน แม้อาจจำเป็นต้องใช้กำลังก็ตาม โดยกองทัพจีนยังเคลื่อนไหวดำเนินกิจกรรมทางทหารรอบเกาะไต้หวันอยู่เป็นประจำ ทั้งการส่งเครื่องบินรบและเรือรบป้วนเปี้ยนเข้าใกล้ไต้หวัน ทำให้กองทัพไต้หวันเฝ้าระวังอย่างสูง
ขณะที่ไต้หวัน เป็นพันธมิตรและได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งสภาคองเกรสเพิ่งได้อนุมัติผ่านกฎหมายในการมอบความช่วยเหลือด้านการป้องกันทางทหารให้กับไต้หวันด้วย
นายหวัง เหวินปิน โฆษกระทรวงต่างประเทศของจีน ออกมาเตือนถึงการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างไต้หวันและสหรัฐว่ามีแต่จะทำให้บรรยากาศตึงเครียดมากขึ้นและเสี่ยงต่อความขัดแย้งในช่องแคบไต้หวัน พร้อมกันนี้ยังเรียกร้องให้สหรัฐหยุดจัดหาอาวุธให้ไต้หวันด้วย
อย่างไรก็ตาม นายเจฟฟ์ หลิว โฆษกกระทรวงต่างประเทศไต้หวัน กล่าวโต้ในวันนี้ว่า เป็นจีนเองต่างหากที่ก่อภัยคุกคามทางทหารเพิ่มขึ้น โดยการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในช่องแคบไต้หวันแต่เพียงฝ่ายเดียว
