แอสตร้าเซนเนก้า รับครั้งแรก วัคซีนโควิด มีผลข้างเคียง ทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือด-เกล็ดเลือดต่ำ

แอสตร้าเซนเนก้า รับครั้งแรก วัคซีนโควิด มีผลข้างเคียง ภาวะลิ่มเลือด-เกล็ดเลือดต่ำ

อินดิเพนเดนท์ รายงานว่าแอสตร้าเซนเนก้า ได้ยอมรับว่า วัคซีนโควิดของบริษัท ทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน และ เกล็ดเลือดต่ำ แม้ว่าจะเกิดขึ้นได้ยาก

บริษัทยายักษ์ใหญ่ แอสตร้าเซนเนก้า ยอมรับว่า วัคซีนป้องกันโควิดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในชื่อ โควิชีลด์ สามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่พบได้ยาก รวมถึงลิ่มเลือดและจำนวนเกล็ดเลือดต่ำ

โควิชีลด์ ได้รับการพัฒนาโดย บริษัท อังกฤษ สวีเดน โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ และผลิตโดย สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย มีการบริหารงานอย่างกว้างขวาง ใน 150 ประเทศ รวมถึง สหราชอาณาจักร และ อินเดีย

Advertisement

การศึกษาบางชิ้น ที่ทำระหว่างที่โควิดแพร่ระบาดนั้น พบว่า วัคซีนมีรประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ได้ 60-80% อย่างไรก็ตาม การวิจัยก็พบว่า โควิดชิลด์ อาจทำให้บางคนเกิดลิ่มเลือด ซึ่งอาจถึงแก่ชีวิตได้

คดีฟ้องร้องแบบกลุ่ม ในสหราชอาณาจักร อ้างว่า วัคซีนดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส เรียกร้องค่าเสียหายสูงถึง 100 ล้านปอนด์ แก่เหยื่อประมาณ 50 ราย

ผู้ร้องเรียนรายหนึ่ง กล่าวหาว่าวัคซีนทำให้เขาได้รับบาดเจ็บที่สมองอย่างถาวร หลังจากที่เขามีลิ่มเลือด จนทำให้เขาทำงานไม่ได้

Advertisement

แม้แอสตร้าฯ จะโต้แย้งข้อกล่าวอ้างเหล่านั้น แต่ก็ยอมรับเป็นครั้งแรกในเอกสารของศาลฉบับหนึ่งว่า วัคซีน สามารถทำให้เกิด TTS หรือ ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน-ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ได้ในบางกรณี หรือก็คือ ภาวะที่มีลิ่มเลือดอุดตันและมีเกล็ดเลือดต่ำภายหลังการได้รับวัคซีน

“เป็นที่ยอมรับกันว่า วัคซีนแอสตร้าฯ ทำให้เกิด TTS ได้ในบางกรณี แต่ไม่ทราบสาเหตุ” ตามการรายงานของเทเลกราฟ

นอกจากนี้ภาวะ TTS ยังสามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มีวัคซีนแอสตร้าฯ (หรือวัคซีนใดๆ) สาเหตุในแต่ละกรณีจะเป็นเรื่องของหลักฐานจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งการยอมรับของแอสตร้าฯครั้งนี้ ขัดแย้งกับคำยืนกรานของบริษัทในปี 2003 ที่ว่า ไม่ยอมรับว่า TTS เกิดจากวัคซีนในระดับทั่วไป

องค์การอนามัยโลก ยืนยันว่า โควิชีลด์ อาจมีผลข้างเคียงที่คุกคามถึงชีวิตได้ โดยมีรายงานเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ ที่หายากมากที่เรียกว่า Thrombosis with Thrombocytopenia Syndrome ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติและรุนแรง ที่เกี่ยวข้องกับจำนวนเกล็ดเลือดต่ำ ที่ได้รับการรายงานหลักจากฉีดวัคซีนนี้

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้ให้ข้อมูลไว้เมื่อ ปี 2564 ภาวะ Vaccine-induced immune thrombotic thrombocytopenia (VITT) หรือ Thrombosis with thrombocytopenia syndrome (TTS) เป็นภาวะที่มีลิ่มเลือดอุดตันและมีเกล็ดเลือดต่ำภายหลังการได้รับวัคซีน โดยมี
รายงานการเกิดในผู้ป่วยที่มีประวัติได้รับวัคซีนโควิด ชนิดใช้ไวรัสเป็นพาหะของแอสตร้าฯ และ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน

กลไกการเกิดโรคยังไม่ทราบชัดเจน เชื่อว่าอาจเกิดจากการที่มีการรั่วของสาร DNA จากเซลล์ภายหลังได้รับวัคซนี หรือจากสารบางอย่างที่อยู่ในวัคซีนป้อวกันโรคโควิด 19 ชนิดใช้ไวรัสเป็นพาหะ ไปจับกับ Platelet factor 4 (PF4) แล้วกระตุ้นให้เกิดการสร้าง Anti-PF4 autoantibody คล้ายกับในภาวะ Autoimmune
heparin-induced thrombocytopenia ผู้ป่วยมักจะมาด้วยอาการแสดงของการอุดตันของหลอดเลือด เช่น ปวดศีรษะ แขนขาอ่อนแรง ปวดท้อง ปวดหลัง เจ็บหน้าอก หายใจติดขัด ขาบวมเจ็บ หรือพบมีจุดเลือดออก

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ช็อกอีก! หมอธีระวัฒน์ เผยงานวิจัยญี่ปุ่น วัคซีน mRNA เชื่อมโยงกับอัตราการตายสูงผิดปกติของมะเร็งทุกชนิด
สธ.ยันไม่มีวัคซีน แอสตร้าฯให้ฉีดแล้ว รับรู้ข้อมูลลิ่มเลือดอุดตัน ก่อนแล้ว ให้ปรับใช้เหมาะสม
หมอธีระวัฒน์ เผยไทยยังฉีดแอสตร้าฯ หลายองค์กรคิดค่าใช้จ่าย จี้ชดใช้ค่าเสียหาย-เยียวยา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image