ยอดดับทางหลวงในกวางตุ้งถล่มพุ่ง 36 ราย
สำนักข่าวซินหัวของรัฐระบุเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางหลวงถล่มในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 36 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงปฏิบัติงานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ซินหัวระบุว่า ทางหลวงที่ถล่มลงมาได้ทับรถยนต์กว่า 20 คัน และมีผู้ประสบภัยในเหตุการณ์ดังกล่าว 54 คน โดยในเวลา 05.30 น. ของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจาก 24 คนในบ่ายวันพุธ เป็นมีผู้เสียชีวิต 36 ราย และได้รับบาดเจ็บ 30 คน โดยอาการบาดเจ็บดังกล่าวไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต
ทางการได้ประกาศแนะนำให้ประชาชนเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากมีการปิดถนนทางหลวงเส้น S12 อย่างเป็นทางการตั้งแต่ในวันพุธที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ซินหัวระบุด้วยว่า การพังทลายของถนนในครั้งนี้ถือเป็นโศกนาฏกรรมทางธรรมชาติ ซึ่งเกิดขึ้นจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยมีการส่งทีมช่วยเหลือไปยังพื้นที่ราว 500 คน เพื่อเข้าร่วมในปฏิบัติการกู้ภัย
จีนมีแนวโน้มเกิดภัยพิบัติมากขึ้น เมื่อเดือนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักในพื้นที่อื่นๆ ของมณฑลกวางตุ้ง ทำให้เกิดน้ำท่วมคร่าชีวิตผู้คนไป 4 ราย ทางการต้องอพยพประชาชนกว่า 100,000 คน นอกจากนี้ยังเกิดพายุทอร์นาโดที่คร่าชีวิตผู้คนไป 5 ราย ในนครกวางโจวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และคาดว่าฝนจะตกหนักในพื้นที่ดังกล่าวตลอดเดือนพฤษภาคมนี้ ทำให้รัฐบาลจีนประกาศเตือนว่าอาจเกิดภัยพิบัติขึ้นเพิ่มเติม
กระทรวงบริหารจัดการภัยพิบัติของจีนกล่าวว่า มณฑลทางตอนใต้และทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศรวมถึงมณฑลกวางตุ้ง มีแนวโน้มว่าจะเป็นหนึ่งในมณฑลที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ซึ่งเสี่ยงที่จะเกิดภัยพิบัติตามมา
มณฑลกวางตุ้งถือเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมสำคัญของประเทศจีน เป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นซึ่งได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติหลายครั้งเนื่องจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ที่สุด ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้ให้คำมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2060
