TikTok ฟ้องกลับ ระงับบีบขายแอพพ์ในสหรัฐ ชี้ละเมิด รธน. มะกัน
TikTok และไบท์แดนซ์ บริษัทแม่ของแอพพ์ยอดนิยมดังกล่าวในจีน ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม เพื่อขัดขวางกฎหมายที่ลงนามโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อวันที่ 24 เมษายน บังคับให้ TikTok ต้องขายกิจการในสหรัฐ ภายในเวลา 9 เดือนถึง 1 ปี ไม่เช่นนั้นแอพพ์ยอดนิยมดังกล่าวซึ่งมีชาวอเมริกันใช้งานมากกว่า 170 ล้านคน ก็จะถูกแบนไม่ให้ใช้ภายในสหรัฐ
บริษัทได้ยื่นฟ้องต่อศาลอุทธรณ์สหรัฐประจำเขตโคลัมเบียเซอร์กิต โดยโต้แย้งว่ากฎหมายดังกล่าวละเมิดรัฐธรรมนูญสหรัฐหลายประการ ซึ่งรวมถึงการละเมิดการคุ้มครองเสรีภาพในการพูดภายใต้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งที่ 1
“เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่สภาคองเกรสได้ออกกฎหมายที่กำหนดให้แพลตฟอร์มเดียว ถูกห้ามการใช้งานอย่างถาวรในสหรัฐ” ไบท์แดนซ์ระบุ และว่า การขายกิจการนั้นเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะในเชิงพาณิชย์ และไม่ชอบธรรมตามกฎหมาย ไม่มีคำถามเลยว่า กฎหมายที่กำหนดให้มีการปิด TikTok ภายในวันที่ 19 มกราคม 2025 จะเป็นการปิดปากชาวอเมริกัน 170 ล้านคนที่ใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อสื่อสารในรูปแบบที่ไม่สามารถทำซ้ำขึ้นใหม่ได้ที่อื่น
คำฟ้องดังกล่าวยังระบุด้วยว่า รัฐบาลจีนได้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าจะไม่อนุญาตให้มีการขายเครื่องมือใดๆ ที่จะทำให้ทราบถึงกุญแจที่นำไปสู่ความสำเร็จของ TikTok ในสหรัฐ โดยบริษัทได้ขอให้ศาลอุทธรณ์ขัดขวางมิให้นายเมอร์ริค การ์แลนด์ รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐ บังคับใช้กฎหมายดังกล่าว และรับรองให้มีการออกมาตรการเยียวยาการคุ้มครองชั่วคราวด้วย
คำฟ้องระบุด้วยว่า หุ้นของไบท์แดนซ์ 58% ถือครองโดยสถาบันระดับโลก ซึ่งรวมถึง BlackRock, General Atlantic และ Susquehanna International Group อีก 21% เป็นเจ้าของโดยผู้ก่อตั้งชาวจีนของบริษัท และ 21% เป็นเจ้าของโดยพนักงาน ซึ่งรวมถึงชาวอเมริกันประมาณ 7,000 คน
ทำเนียบขาวกล่าวว่า ต้องการยุติการที่จีนเป็นเจ้าของแอพพ์ยอดนิยมดังกล่าวด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง แต่ใช่ได้ต้องการจะแบน TikTok ขณะที่ทำเนียบขาวและกระทรวงยุติธรรมสหรัฐปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใดๆ เกี่ยวกับการฟ้องร้องที่เกิดขึ้น
