‘เนทันยาฮู’ ลั่น อิสราเอลพร้อมสู้คนเดียว หลังสหรัฐขู่หยุดส่งอาวุธให้

AFP

‘เนทันยาฮู’ ลั่น อิสราเอลพร้อมสู้คนเดียว หลังสหรัฐขู่หยุดส่งอาวุธให้

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้กล่าวเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ว่าอิสราเอลพร้อมที่จะ “ยืนหยัดอยู่คนเดียว” ในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ภายหลังจากที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ขู่เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมว่า สหรัฐจะระงับส่งอาวุธบางส่วนให้แก่อิสราเอล หากอิสราเอลเดินหน้าโจมตีเมืองราฟาห์ครั้งใหญ่ ซึ่งในเมืองดังกล่าวมีชาวปาเลสไตน์ที่หนีสงครามจากทางตอนเหนือของฉนวนกาซาอาศัยอยู่ราว 1.4 ล้านคน

เนทันยาฮูไม่ได้กล่าวถึงคำขู่ของสหรัฐในถ้อยแถลง แต่ได้กล่าวย้ำความเห็นของเขาเนื่องในโอกาสวันประกาศอิสรภาพของอิสราเอล ว่าเราคือคนหมู่น้อยที่ต่อสู้กับคนหมู่มาก “ในวันนี้เราแข็งแกร่งขึ้นมาก เรามุ่งมั่นและเรารวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อเอาชนะศัตรูและคนที่หวังที่จะทำลายเรา” เนทันยาฮูกล่าว

นอกจากนั้นแล้ว นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวอีกว่า เราจะสู้ไม่ถอยและเราจะชนะไปด้วยกันด้วยความเข้มแข็งของจิตใจและความช่วยเหลือจากพระเจ้า อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่าการระงับการส่งอาวุธให้แก่อิสราเอลของสหรัฐอาจยังไม่ส่งผลกระทบต่อการทำสงครามของอิสราเอลในทันทีทันใด

Advertisement

ด้านนายแดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า กองทัพมีอาวุธมากพอที่จะบรรลุเป้าหมายของอิสราเอลในเมืองราฟาห์ สหรัฐอเมริกาได้ช่วยเหลืออิสราเอลอย่างไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่เริ่มทำสงคราม อิสราเอลมีผลประโยชน์ของเราเองและเราก็อ่อนไหวต่อผลประโยชน์ของสหรัฐเช่นกัน

ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน องค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) ได้ประกาศปิดสำนักงานใหญ่ของทางหน่วยงานในเยรูซาเลมตะวันออกเป็นการชั่วคราว หลังประชาชนชาวอิสราเอลได้จุดไฟเผาบริเวณด้านนอกอาคารสำนักงานใหญ่ของทางหน่วยงาน 2 ครั้งในช่วงค่ำวันที่ 9 พฤษภาคม โดยถือเป็นการโจมตีใส่อาคารของ UNRWA ครั้งที่ 2 ในรอบไม่กี่วัน

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีเจ้าหน้าที่ของ UNRWA ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่สร้างความเสียหายแก่บริเวณด้านนอกของสำนักงานใหญ่อย่างหนัก และเจ้าหน้าที่ UNRWA ต้องมาดับไฟด้วยตนเอง นายฟิลิปเป้ ลาซซารินี หัวหน้าองค์กร UNRWA กล่าวว่า เหตุการณ์วางเพลิงครั้งล่าสุดนี้ถือเป็นอีกครั้งที่ชีวิตของเจ้าหน้าที่ยูเอ็นตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างร้ายแรง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image