ปาปัวนิวกินีสั่งอพยพ 7.9 พันคนพ้นพื้นที่เสี่ยง หวั่นดินถล่มรอบใหม่
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ประเทศปาปัวนิวกินีได้ทำการอพยพประชาชนประมาณ 7,900 คนออกจากหมู่บ้านในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งใกล้กับจุดเกิดเหตุดินถล่มก่อนหน้านี้ ขณะที่ทางการเตือนว่าอาจเกิดดินถล่มเพิ่มเติมขึ้นได้อีก
ดินถล่มเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ทำให้คาดว่ามีประชาชนราว 2,000 คน อาจถูกฝังอยู่ภายใต้พื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นกับชุมชนในที่สูงซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ขณะที่ความพยายามในการให้ความช่วยเหลือประชาชนถูกซ้ำเติมจากถนนที่ตัดขาด ฝนที่ตกหนัก รวมถึงการต่อสู้ระหว่างชนเผ่าในบริเวณใกล้เคียง ทำให้หวั่นว่าภัยพิบัติในพื้นที่ดังกล่าวอาจเลวร้ายลงไปอีก แม้ว่ากองกำลังป้องกันประเทศได้พยายามที่จะเข้าถึงพื้นที่พร้อมกับอุปกรณ์ขนย้ายดินขนาดใหญ่ แต่ความเป็นไปได้ที่จะพบผู้รอดชีวิตน้อยลงเรื่อยๆ
ซานดิส ซากา ผู้บริหารจังหวัดเอนกา กล่าวว่า โศกนาฏกรรมยังคงดำเนินอยู่ต่อไป ในทุกๆ ชั่วโมงคุณจะได้ยินเสียงหินแตก มันฟังเหมือนกับเสียงระเบิดหรือกระสุนปืน และหินก็ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เป็นเรื่องน่าเศร้าที่รัฐบาลขาดแคลนทรัพยากร ทำให้ไม่สามารถรับมือกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ได้
ซากากล่าวว่า พื้นที่ที่ถูกดินถล่มทับเป็นสถานที่ตั้งของบ้านเรือน สถานที่ประกอบธุรกิจ โบสถ์ และโรงเรียนซึ่งมีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น แต่มันถูกกวาดล้างพร้อมกันจนหมดสิ้นจนคล้ายกับพื้นผิวของดวงจันทร์ที่เหลือเพียงแต่ก้อนหิน ขณะที่ผู้คนใช้มือเปล่าขุดดิน
ทางการปาปัวนิวกินีจะจัดประชุมฉุกเฉินออนไลน์กับหน่วยงานของสหประชาชาติรวมถึงพันธมิตรในเวทีโลกในวันอังคารนี้ โดยหวังว่าจะช่วยให้พวกเขาได้รับความช่วยเหลือในการบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัย หลังจากที่มีการประเมินว่าดินถล่มครั้งแรกทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2,000 ราย และมีผู้พลัดถิ่นแล้วมากกว่า 1,000 คน
ออสเตรเลียได้ประกาศให้ความช่วยเหลือมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงสิ่งของบรรเทาฉุกเฉินอย่างที่พักพิง ชุดสุขอนามัย และความช่วยเหลือสำหรับเด็กและสตรี เช่นเดียวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ที่ต่างก็เสนอความช่วยเหลือให้กับปาปัวนิวกินีเช่นกัน