เกิดเหตุระเบิดต่อเนื่องในกรุงดามัสกัสและเมืองฮอมส์ของซีเรียส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 140 ราย และได้รับบาดเจ็บราว 180 คน โดยเหตุระเบิดที่กรุงดามัสกัสเกิดขึ้นถึง 4 ครั้งในพื้นที่ชานเมืองทางทิศใต้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 83 คน บาดเจ็บ 178 คน ขณะที่ระเบิดในเมืองฮอมส์เกิดขึ้น 2 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 57 คน แต่ไม่มีรายละเอียดจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
ด้านกองกำลังรัฐอิสลามหรือไอเอสออกมาอ้างความรับผิดชอบในการก่อเหตุทั้งสองครั้ง โดยพื้นที่ซึ่งมีการก่อเหตุระเบิดรถยนต์ดังกล่าว เป็นพื้นที่ของชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอลาวิตส์ซึ่งมักตกเป็นเป้าโจมตีโดยกลุ่มไอเอสอยู่เป็นระยะ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ไอเอสเพิ่งก่อเหตุระเบิดในพื้นที่เดียวกันของเมืองฮอมส์ทำให้มีผู้เสียชีวิต 71 ราย
เหตุระเบิดครั้งล่าสุดเกิดขึ้นขณะที่ความตกลงหยุดยิงในซีเรียระหว่างชาติมหาอำนาจซึ่งมีเส้นตายในวันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไม่มีผลบังคับใช้ได้จริง อย่างไรก็ดีนายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ยังคงมีความหวังหลังระบุว่า สามารถบรรลุข้อตกลงยุติการหยุดยิงบางส่วนกับรัสเซียแล้ว โดยเบื้องต้นเป็นการตกลงในหลักการซึ่งยังต้องมีการหารือในรายละเอียดกันต่อไป