ยูเอ็นเผย ไฟไหม้ค่ายพลัดถิ่นคองโก ผลาญเต็นท์กว่าครึ่งร้อย ทำผู้คนไร้ที่พัก
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน สำนักข่าวเอพีและเดอะวอชิงตันโพสต์รายงานว่า เกิดเหตุไฟไหม้ในค่ายผู้พลัดถิ่นมูกังกาซึ่งอยู่ทางตะวันออกใกล้กับเมืองโกมาของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางวันของวันพุธ (5 มิ.ย.) ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น เพลิงไหม้ดังกล่าวสร้างความเสียหาย ทำลายเต็นท์ที่พักชั่วคราวกว่า 50 หลัง และทำให้หลายครอบครัวไม่มีที่พักอาศัย ตามข้อมูลจากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่เชื่อว่าเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นระหว่างการทำอาหารในค่าย
จากข้อมูลของโฆษกสหประชาชาติ เหตุอัคคีภัยดังกล่าวครั้งล่าสุดนี้ได้ซ้ำเติมค่ายมูกังกา ที่ต้องเผชิญกับการโจมตีด้วยระเบิดเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เหตุระเบิดดังกล่าวคร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 18 ราย และบาดเจ็บอีก 32 ราย ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก
แอนน์ มารี นิกูซ วัย 60 ปี ผู้พลัดถิ่นที่อาศัยอยู่กับครอบครัวของเธอได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอพีว่า เธอไม่สามารถเก็บสิ่งของที่มีค่าที่สุดของเธอได้ ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายจากเหตุเพลิงไหม้ เธอกล่าวว่า “สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เรามีก็ลุกเป็นไฟเช่นกัน” ขณะที่ ฟูราฮา มูเลมา มาเรียม วัย 42 ปี คุณแม่ลูกสี่เธอตระหนักถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์ โดยยอมรับว่าเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวแม้จะสร้างความเสียหายร้ายแรง แต่ผู้คนสามารถรอดพ้นจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลากลางวัน
ความขัดแย้งในคองโกตะวันออกที่ยืดเยื้อมานานหลายทศวรรษ ได้กระตุ้นให้เกิดวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของโลก กลุ่มติดอาวุธกว่า 100 กลุ่มแย่งชิงที่ดินและเหมืองแร่ที่ร่ำรวย ความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ยืดเยื้อ รวมถึงการสังหารหมู่และความรุนแรงทางเพศ ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้มีผู้พลัดถิ่นกว่า 7 ล้านคน โดยหลายพันคนต้องลี้ภัยในค่ายผู้พลัดถิ่นชั่วคราว เช่นเดียวกับที่ตกเป็นเป้าเมื่อเร็วๆ นี้ ในขณะที่คนอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วนยังคงไม่ได้รับการช่วยเหลือ