เมียนมารวบหลายสิบคน ‘ตัวแทนขายคอนโดไทย-ค้าทอง-แลกเปลี่ยนเงินตรา’ หวังสร้างเสถียรภาพเงินจ๊าด
รัฐบาลทหารเมียนมาปราบปรามผู้ค้าทองคำ ผู้ทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ และตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ โดยมีการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องไปถึง 35 คนในเวลาเพียงไม่กี่วัน โดยระบุว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาเสถียรภาพค่าเงินจ๊าดของเมียนมาที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว
สื่อของทางการเมียนมาระบุว่า ผู้ที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ประกอบด้วยผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าขายห้องชุดในไทยอย่างผิดกฎหมาย 5 คน และอีก 14 คนถูกจับกุมในข้อหาทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราในประเทศไม่มีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนมิถุนายน สกุลเงินจ๊าดของเมียนมาลดลงต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ สู่ระดับ 4.5 พันจ๊าดต่อดอลลาร์สหรัฐในตลาดมืด ซึ่งอ่อนค่ากว่าอัตราอ้างอิงของธนาคารชาติเมียนมาที่กำหนดไว้ที่ 2.1 พันจ๊าดต่อดอลลาร์อย่างมาก
หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมารายงานว่า รัฐบาลเมียนมากำลังทำงานเพื่อธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของประเทศและรักษาหลักนิติธรรม หน่วยงานความมั่นคงได้ดำเนินการกับนักธุรกินที่มีส่วนร่วมในการเก็งกำไรเพื่อขัดขวางการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเศ
ขณะที่โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมารายงานว่า มีผู้ถูกจับกุมอีก 21 คนในข้อหาทำให้ราคาทองคำไม่มีเสถียรภาพอีกด้วย
เศรษฐกิจของเมียนมาตกอยู่ในความวุ่นวายหลังการรัฐประหารในปี 2564 ทำให้สภาพเศรษฐกิจที่เปราะบางอยู่แล้วหลังการปกครองโดยรัฐบาลทหารมานานหลายทศวรรษย่ำแย่ลง และยิ่งเจอกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามด้วยการรัฐประหาร ทำให้การลงทุนจากต่างชาติหดหาย ซ้ำยังย่ำแย่หนักเมื่อเจอกับการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก
ตามรายงานของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ อัตราความยากจนในเมียนมาเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากร้อยละ 24.8 ในปี 2560 เป็นร้อยละ 49.7 ในปี 2566