สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ดูเหมือนจะไม่ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาให้มีการระงับคำสั่งผู้บริหารของนายทรัมป์ที่ห้ามการเดินทางเข้าสหรัฐของพลเมือง 7 ชาติมุสลิม ประกอบไปด้วยอิหร่าน อิรัก ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรียและเยเมน หลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์
คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ที่ลงนามรับทราบโดยนายไมเคิล เบนเน็ตต์ ทนายความของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ไม่ได้ระบุถึงความเป็นไปได้ที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อในชั้นศาลฎีกา แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายบริหารของนายทรัมป์อาจได้ข้อสรุปแล้วว่ามีโอกาสน้อยมากที่จะประสบความสำเร็จหลังจากพ่ายแพ้มา 2 ศาลติดต่อกัน
นอกจากนี้ จากการที่องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาในปัจจุบันมี 8 คน ไม่ครบองค์คณะ 9 คน แบ่งเป็นฝั่งอนุรักษนิยมและเสรีนิยมฝ่ายละ 4 คน มาเป็นเวลา 1 ปี แล้ว ทำให้มีแนวโน้มว่า หากคำตัดสินที่ออกมาได้รับคะแนนเสียงเท่ากัน จะมีผลทำให้คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ถึงที่สุด โดยถึงแม้ว่านายทรัมป์จะเพิ่งเสนอชื่อนายนีล กอร์ซัช ผู้พิพากษาสายอนุรักษนิยมเข้ารับตำแหน่งนี้แทนนายอันโตนิน สกาเลีย ผู้พิพากษาศาลสูงสุดคนก่อนหน้าที่เสียชีวิตลง แต่ยังไม่มีสัญญาณว่า วุฒิสมาชิกสหรัฐจะลงมติรับรองนายกอร์ซัชในเร็วๆ นี้แต่อย่างใด
