ซัมซุง แอลจี เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง กระตุ้นตลาดวีอาร์ นักวิเคราะห์ชี้ทิศทางตลาดไม่มีนวัตกรรมใหม่

สำนักข่าวเอเอฟพีเผยแพร่บทความเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระบุว่า บริษัทซัมซุง อิเล็คโทรนิค และบริษัทแอลจี สองบริษัทยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงตัวใหม่ที่มีการยกระดับความสามารถของกล้องให้ดีขึ้น พร้อมทั้งมีการนำเทคโนโลยี “เวอร์ชวลเรียลิตี้” หรือเทคโนโลยีโลกเสมือนเพื่อกระตุ้นยอดขายอุปกรณ์ “วีอาร์ เฮดเซต” อุปกรณ์สวมศีรษะสำหรับโลกเสมือนจริงที่ยอดขายชะลอตัวลง

ในงาน โมบายเวิลด์คองเกรส ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ซัมซุงเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงสองเวอร์ชั่น นั่นก็คือ Galaxy S7 และสมาร์ทโฟนหน้าจอขอบโค้ง Galaxy S7 edge ที่มีตัวเครื่องกันน้ำ พร้อมด้วยการอัพเกรดกล้องถ่ายรูปที่มีความสามารถในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ซัมซุงยังเปิดตัวกล้องถ่ายภาพ 360 องศา อย่าง Gear 360 ซึ่งเป็นกล้องที่มีความสามารถในการถ่ายภาพและวิดีโอในมุมมอง 360 องศา สามารถอัพโหลดขึ้นแสดงผลในเฟซบุ๊ก ยูทูบ รวมถึงใช้กับ Gear VR อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับโลก “เวอร์ชวลเรียลิตี้” ซึ่งวางจำหน่ายไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

“ในปี 2559 นี้ การสร้างภาพและวิดีโอ 360 องศา ของผู้ใช้อุปกรณ์จะมีการเติบโตมากขึ้น การเปิดตัวกล้องที่สามารถถ่ายภาพ 360 องศาได้มีจำนวนมากขึ้นและผู้ชมก็มีความต้องการเข้าถึงคอนเทนต์ลักษณะนี้มากขึ้น” เบน วู้ด ผู้อำนวยการด้านการวิจัยตลาดบริษัท ซีซีเอสอินไซต์ บริษัทวิเคราะห์ตลาดชื่อดังระบุ และว่า “ถึงแม้ว่าวิดีโอ 360 องศาจะสามารถดูได้บนสมาร์ทโฟนและจอคอมพิวเตอร์ แต่วิธีการที่ดึงดูดในการดูคอนเทนต์เหล่านี้ก็คือการใช้ “วีอาร์ เฮดเซต” และนี่จะเป็นเหตุผลที่ไม่น่ากังขาที่จะสามารถดันยอดขายสินค้าชนิดนี้ได้” วู้ดระบุ

ด้านมาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเฟซบุ๊ก ผู้สร้างความประหลาดใจด้วยการปรากฏตัวในงานเปิดตัวสินค้าของซัมซุงและประกาศความร่วมมือระหว่างเฟซบุ๊กและซัมซุงเพื่อโปรโมตการใช้เทคโนโลยี เวอร์ชวลเรียลิตี้ ในโลกสังคมออนไลน์ ระบุว่า “เราต้องการทำให้เฟซบุ๊กเป็นแพลทฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับเวอร์ชวลเรียลิตี้ และซัมซุงก็เป็นบริษัทเดียวในโลกที่มีประสบการณ์ดีที่สุดในแง่ของโลกเสมือนจริง” ซัคเกอร์เบิร์กระบุ

Advertisement

 

แอลจี G5
แอลจี G5

ด้านคู่แข่งอย่างบริษัทแอลจี เปิดตัว สมาร์ทโฟนแอลจี “G5” สมาร์ทโฟนเรือธงที่สามารถอัพเกรดอุปกรณ์เสริมได้หลายชนิด เช่น อัพเกรดกล้องให้ได้รับประสบการณ์เหมือนการใช้กล้องขนาดใหญ่ รวมถึงการอัพเกรดระบบเสียงด้วยระบบเสียงที่ออกแบบโดยบริษัท Bang&Olufsen บริษัทจากประเทศเดนมาร์ก รวมถึงแบตเตอรี่ที่ถอดเปลี่ยนได้จากด้านล่างของตัวเครื่อง และแน่นอนว่า แอลจีเปิดตัว “วีอาร์ เฮดเซต” ด้วยเพื่อแข่งขันกับเฮดเซตของซัมซุงที่เปิดตัวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

SPAIN-TELECOM-MWC-LG

Advertisement

รายงานของการ์ตเนอร์ บริษัทวิเคราะห์ตลาดไอที ระบุว่า การมุ่งเน้นไปที่ตลาดของอุปกรณ์เสริมที่มาพร้อมกับสมาร์ทโฟนนั้นเริ่มชะลอตัวล งเนื่องจากตลาดได้มาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ด้านบริษัทแม่ของแอลจี อย่าง แอลจี อิเล็กทรอนิกส์ มีกำไรสุทธิลดลงเหลือครึ่งเดียวเมื่อปี 2558 ผลจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง รวมไปถึงการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนที่สูงขึ้น ขณะที่ซัมซุงทำได้เพียงเพิ่มสัดส่วนตลาดได้แค่พอประมาณเท่านั้น ขณะที่ยอดขายไอโฟนของแอปเปิลตกลงเป็นครั้งแรกในรอบปีในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2558

การ์ตเนอร์ระบุด้วยว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น 9.7 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 นั้นเหมือนเป็นการย้อนเวลากลับไปเมื่อปี 2552 ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต

“อุปกรณ์เสริมเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นแว่นวีอาร์ กล้อง หรือสมาร์ทวอตช์ ทั้งหมดนั่นเป็นหนทางไปสู่การสร้างกำไรเพิ่ม” เอียน ฟ็อกก์ หัวหน้าทีมวิเคราะห์ตลาดโมบายและเทคโนโลยี ของบริษัทไอเอชเอส เทคโนโลยี บริษัทวิเคราะห์ตลาดไอที ระบุ และว่า ผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่กำลังเผชิญทางเลือกที่ยากลำบาก ว่าจะมุ่งเป้าไปอุปกรณ์ราคาย่อมเยาที่สามารถขายได้ปริมาณมากแต่มีกำไรน้อย หรือจะมุ่งไปที่ฟีเจอร์ที่จะสามารถสร้างความแตกต่างให้กับสมาร์ทโฟนได้กันแน่

ด้านโทมัส ฮัสสัน นักวิเคราะห์จากบริษัทฟอร์เรสเตอร์ ระบุว่า “เรากำลังเดินหน้าไปสู่แนวทางแห่งการแบ่งย่อยและการพัฒนา เช่น กล้องที่พัฒนามากขึ้น การควบคุมโดยอิสระ รวมไปถึงการพัฒนาระบบวีอาร์ให้พัฒนามากขึ้น แต่ว่าจะไม่มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆแต่อย่างใด”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image