เว็บไซต์มิร์เรอร์ ของอังกฤษรายงานข่าวเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เป็นบทความเจาะลึกเมืองพัทยา ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งเซ็กซ์ พร้อมชี้ว่า คนที่อาศัยในเมืองพัทยา 1 ใน 5 คน ค้าบริการทางเพศ
รายงานเริ่มต้นด้วยข้อความบนเสื้อยืดที่ขายให้กับนักท่องเที่ยวที่เขียนว่า “คนดีไปสวรรค์ คนชั่วไปพัทยา” พร้อมระบุว่า หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็มีคนชั่วอยู่เยอะ เพราะทุกๆ ปีมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 1 ล้านคนที่เดินทางไปยังเมืองตากอากาศที่รู้จักกันดีว่า “เมืองหลวงเซ็กซ์ของโลก” และชายจำนวนมากก็ถูกดึงดูดไปยังพัทยาด้วยเหตุผลนี้เพียงอย่างเดียว
มิร์เรอร์ระบุว่า พัทยามีรายงานผู้ค้าบริการทางเพศจำนวน 27,000 คน หรือทุกๆ 5 คนที่อาศัยอยู่ในเมืองชายฝั่งตะวันออกแห่งนี้ 1 คนจะค้าบริการทางเพศ
รายงานระบุว่า สิ่งล่อใจนักท่องเที่ยวหลักๆ คือย่านโคมแดงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่เรียงรายไปด้วยสถานค้าบริการทางเพศและบาร์อะโกโก้ ป้ายโฆษณาโปรโมตเซ็กซ์โชว์ เต้นรูดเสา เครื่องดื่มราคาถูก และอื่นๆ อีกมาก ขณะที่หญิงไทยนุ่งน้อยห่มน้อย ใบหน้าขาวด้วยรองพื้น ยื่นข้อเสนอนวดให้กับชายชาวตะวันตกที่เดินผ่านไปมา
รายงานระบุว่า การค้าบริการทางเพศในประเทศไทยเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่กฎหมายก็ถูกละเลยอย่างกว้างขวาง ทำให้มีแหล่งค้าบริการทางเพศให้บริการเป็นจำนวนมาก ขณะที่พัทยาเพียงแห่งเดียวมีบาร์และร้านนวดมากกว่า 1,000 แห่ง ในจำนวนนี้ให้บริการทางเพศผิดกฎหมายเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม อนาคตของการค้ากามในพัทยานั้นมีอนาคตที่ไม่แน่นอน หลังเมื่อปีก่อน รัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬาหญิงของไทยประกาศที่จะลบภาพการท่องเที่ยวทางเพศ และทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่เป็นมิตรกับผู้หญิง
ผู้ที่อยู่ในแวดวงค้ากามระบุว่า ธุรกิจดังกล่าวเป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจไทยเนื่องจากสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นหลักล้าน พร้อมกับเงินที่นำมาใช้จ่ายจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เพิ่มปฏิบัติการกวาดล้างธุรกิจดังกล่าวเนื่องจากความกังวลเรื่องการค้ามนุษย์ รวมถึงเยาวชนที่อยู่ในวงการค้ากาม โดยเฉพาะกลุ่มเด็กไร้บ้าน
