‘ไบเดน’ สั่งทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัย ตร.ลับให้คำมั่น สอบสวนการทำงาน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ สั่งการให้มีการทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยในการรณรงค์หาเสียงแบบเต็มรูปแบบ รวมถึงในการประชุมระดับชาติของพรรครีพับลิกันที่เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน ที่โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้แทนพรรคในการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ
ไบเดนให้สัมภาษณ์กับ NBC เมื่อวันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม ว่า เขารู้สึกปลอดภัยดีกับหน่วยสืบราชการลับ หรือที่มักจะเรียกกันสั้นๆ ว่า ตำรวจลับ ที่มีหน้าที่อารักขาและดูแลความปลอดภัยให้ประธานาธิบดี อดีตประธานาธิบดี และบุคคลสำคัญของสหรัฐ
โดยไบเดนระบุว่า คำถามว่าพวกเขาควรคาดการณ์และเตรียมการป้องกันล่วงหน้าในเหตุกราดยิงในการรณรงค์หาเสียงของทรัมป์ได้ดีกว่านี้หรือไม่นั้น มันเป็นคำถามเปิดที่ผู้ตอบแต่ละคนก็มีความเห็นเป็นของตนเอง
ไบเดนยังได้สั่งให้ตำรวจลับให้การคุ้มครอง โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ผู้สมัครอิสระในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเป็นทนายความดังด้านสิ่งแวดล้อม แม้ว่าโอกาสที่เขาจะชนะการเลือกตั้งในปลายปีนี้จะแทบไม่มีเลยก็ตาม
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้โพสต์บน Truth Social ของเขาเรียกร้องให้หน่วยสืบราชการลับให้การคุ้มครองเคนเนดี เมื่อคำนึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกทุกวันนี้ และเมื่อพิจารณาจากประวัติความเป็นมาของตระกูลเคนเนดีแล้ว นี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ต้องทำ
คิมเบอร์ลี ซีเทิล ผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับของรัฐบาลกลางสหรัฐ ให้คำมั่นว่า จะร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อตรวจสอบการทบทวนการปฏิบัติงานโดยอิสระ โดยพวกเขากำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานของรัฐบาลกลาง หน่วยงานระดับรัฐ และท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และมันเกิดขึ้นได้อย่างไร และเราจะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อีกอย่างไร
“เราเข้าใจถึงความสำคัญของการทบทวนโดยอิสระที่ประกาศโดยประธานาธิบดี ไบเดน และเราพร้อมจะมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่” ซีเทิลกล่าว
วอชิงตันโพสต์รายงานหนึ่งวันก่อนหน้านี้ว่า ภาพวิดีโอที่มีการเปิดเผยใหม่สนับสนุนรายงานของพยานที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งระบุว่า พวกเขาได้แจ้งตำรวจและชี้ให้เห็นว่ามีมือปืนกำลังนอนอยู่บนหลังคาพร้อมด้วยอาวุธ ขณะที่เสียงปืนที่พุ่งเป้าสังหารทรัมป์ดังขึ้นหลังจากนั้น 86 วินาทีหลังมีผู้พยายามเตือนตำรวจครั้งแรก
เหตุลอบสังหารทรัมป์ที่รัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก และยังสร้างความตื่นตะลึงอย่างหนักในสหรัฐ ที่กลายเป็นประเทศซึ่งมีการแตกแยกแบ่งขั้วกันอย่างลึกซึ้งก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ และยังทำให้ตำรวจลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร