สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า รายงานของสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (เอสไอพีอาร์ไอ) ในสวีเดน ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ระบุว่า การค้าอาวุธทั่วโลกในรอบ 5 ปีหลังเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ยุคสงครามเย็นหรือปี 2493 เป็นต้นมา โดยมีปัจจัยหลักคืออุปสงค์จากภูมิภาคตะวันออกกลางและเอเชีย
รายงานของเอสไอพีอาร์ไอระบุว่า ช่วงระหว่างปี 2555 – 2559 การนำเข้าอาวุธในแง่ของปริมาณทั่วโลก เพิ่มขึ้น 7.7 เปอร์เซ็นต์จากช่วง 5 ปีก่อนหน้าคือระหว่างปี 2550-2554 โดยเอเชียและโอเชียเนียนำเข้าอาวุธคิดเป็น 43 เปอร์เซ็นต์ของทั้งโลก ที่อย่างไรก็ตาม ลดลงจากการนำเข้าอาวุธมากกว่า 44 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมดในช่วง 5 ปีก่อนหน้า
“การซื้อขายอาวุธขนาดใหญ่ในปี 2555-2559 สูงที่สุดในช่วงระยะเวลา 5 ปีก่อนหน้านี้นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็นเป็นต้นมา” แถลงการณ์ของเอสไอพีอาร์ไอระบุ
ส่วนแบ่งการนำเข้าอาวุธของประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางและอ่าวเปอร์เซียเพิ่มขึ้นจาก 17 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 29 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ยุโรปลดลงจาก 18 มาอยู่ที่ 11 เปอร์เซ็นต์ ทวีปอเมริกาลดลง 2.4 จุดมาอยู่ที่ 8.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่แอฟริกาลดลง 1.3 จุดมาอยู่ที่ 8.1 เปอร์เซ็นต์
อินเดียเป็นผู้นำเข้าอาวุธรายใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ตามด้วยซาอุดีอาระเบียที่นำเข้าอาวุธเพิ่มขึ้น 212 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่สหรัฐเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดคิดเป็น 33 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วยรัสเซีย 23 เปอร์เซ็นต์ และจีน 6.2 เปอร์เซ็นต์
