‘มาดูโร’ ลั่น พร้อมโชว์หลักฐาน ชนะเลือกตั้งปธน.จริงไม่จ้อจี้
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม นายนิโกลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา วัย 61 ปี กล่าวว่า เขายินดีที่จะแสดงหลักฐานว่าเขาชนะการเลือกตั้งอย่างโปร่งใส หลังจากเผชิญข้อกังขาทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศ ขณะฝ่ายค้านยืนยันว่า นายเอ็ดมุนโด กอนซาเลซ อูร์รูเดีย อดีตนักการทูต วัย 74 ปี เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง อีกทั้งสหรัฐ สหภาพยุโรปและประเทศในภูมิภาคละตินอเมริการ่วมเรียกร้องให้เวเนซุเอลาเปิดเผยผลการเลือกตั้งโดยละเอียด
มาดูโร ได้กล่าวต่อผู้สื่อข่าวหน้าศาลยุติธรรมในขณะเขายื่นการฟ้องร้องในเรื่องการทำลายกระบวนการการเลือกตั้งว่า เขา “พร้อมที่จะแสดงหลักฐานว่าชนะการเลือกตั้งอย่างสมบูรณ์” และ “ยินดีที่ตอบคำถามและถูกสืบสวน” ตามผลการเลือกตั้งที่แสดงว่าเขาได้รับชัยชนะไปได้ 51%
ขณะที่ชาวเวเนซุเอลาออกมาประท้วงผลการเลือกตั้งในครั้งนี้มาตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม และได้เกิดการนองเลือด โดยเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม กองกำลังฝ่ายความมั่นคงได้ใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางในการปราบปรามผู้ประท้วง
มาเรีย โครีนา มาชาโด ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งถูกถอดถอนสิทธิ์ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง เปิดเผยว่า ในขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 16 ราย และตอนนี้มีผู้ประท้วงถูกคุมขังแล้ว 177 รายและ 11 คนถูกบังคับให้สูญหาย นอกจากนี้ ทาเร็ค วิลเลียม ซาบ อัยการสูงสุด ระบุเพิ่มว่า มีผู้ประท้วงถูกจับกุม 749 คน และบางคนถูกตั้งข้อหาก่อการร้ายด้วย ในส่วนของฝ่ายทหาร มีนายทหารเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 23 นาย
มาชาโดกล่าวโจมตีมาดูโรว่า มาตรการปราบปรามการประท้วงถือเป็นการก่ออาชญากรรมต่อประชาชนในฐานะที่เป็นสมาชิกในครอบครัว สมาชิกของชุมชน เพื่อจะปกป้องสิทธิเสรีภาพของตนเอง อย่างไรก็ดี ทางด้านมาดูโรโต้กลับว่า มือของพรรคฝ่ายค้านนั้นเปื้อนเลือด พวกเขาจะไม่ได้รับอำนาจทางการเมืองและสมควรถูกคุมขัง