รัสเซีย-ตะวันตก แลกเปลี่ยนนักโทษ 24 คน มากสุดหลังสงครามเย็น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม รัสเซียได้ปล่อยตัว อีวาน เกิร์ชโควิช นักข่าวชาวสหรัฐ รวมถึงพอล วีแลน อดีตนาวิกโยธินของสหรัฐ โดยเหตุการณ์นี้ถือเป็นการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษครั้งใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดตั้งแต่สงครามเย็นสิ้นสุดลง
ทำเนียบขาวระบุว่า สหรัฐได้เจรจาหารือในเรื่องการค้ากับรัสเซีย เยอรมัน และอีกสามประเทศ และข้อตกลงนี้ได้ถูกหารืออย่างลับเป็นเวลานานกว่าหนึ่งปี โดยมีข้อตกลงว่า รัสเซียจะส่งนักโทษจำนวน 16 คนกลับสู่ประเทศกลุ่มชาติตะวันตก เพื่อแลกเปลี่ยนกับนักโทษชาวรัสเซีย 8 คน ที่จะถูกส่งตัวกลับไปยังรัสเซีย ซึ่งทางรัฐบาลเยอรมันยืนยันว่า วาดิม คราซิคอฟ ผู้ซึ่งถูกตัดสินจำคุกที่กรุงเบอร์ลินในคดีฆาตกรรม เป็นหนึ่งในจำนวนนักโทษทั้งหมดที่จะมีการแลกตัวกันด้วย

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ชี้ว่า ข้อตกลงนี้เป็นความสำเร็จของการดำเนินการทางการทูตและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น เขากล่าวว่า “วันนี้เป็นตัวอย่างสำคัญว่าทำไมเราต้องมีพันธมิตร” ไบเดนยังได้ยกย่องพันธมิตรชาติตะวันตกที่สามารถตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวและกล้าหาญ โดยเฉพาะโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี
วลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้พบกับนักโทษที่ถูกปล่อยตัวและกลับมาถึงรัสเซีย ที่สนามบินในกรุงมอสโกแล้ว และเผยว่าพวกเขาจะได้รับรางวัลยกย่อง ในฝั่งสหรัฐ ไบเดนและคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี จะเดินทางไปรับนักโทษที่ถูกส่งตัวกลับมายังสหรัฐในวันเดียวกัน
ความสำเร็จในการทูตนี้ของรัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของไบเดน แสดงให้เห็นความสามารถของรัฐบาลเดโมแครต ในห้วงสุดท้ายในการรณรงค์หาเสียงการเลือกตั้ง ที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ดี การแลกเปลี่ยนตัวนักโทษครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการยุติความบาดหมางระหว่างสหรัฐและรัสเซีย โดยโจน ไฟเนอร์ รองที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและรัสเซียยังคงตึงเครียด ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองประเทศยังคงไม่มีความไว้วางใจต่อกัน
ขณะเดียวกันยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า การปล่อยตัวชาวรัสเซียที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาชญากรรมร้ายแรง อาจยิ่งทำให้ศัตรูของสหรัฐจับตัวประกันมากขึ้นอีกด้วย