รัสเซียเผยสู้เดือด หลังยูเครนบ้าเลือด ส่งกำลังโจมตีในถิ่นหมีขาว
กระทรวงกลาโหมของรัสเซียแถลงเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมว่า กองกำลังรัสเซียกำลังต่อสู้อย่างรุนแรงอยู่กับกองกำลังยูเครนที่แทรกซึมเข้ามาก่อเหตุโจมตีในแคว้นคูสค์ของรัสเซีย ที่นับเป็นหนึ่งในการบุกเข้ามาโจมตีในดินแดนรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดของยูเครนนับจากสงครามรุกรานยูเครนของรัสเซียเปิดฉากขึ้นในปี 2565
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า เมื่อวันอังคาร(6 ส.ค.)ที่ผ่านมา กองกำลังยูเครนมากถึง 300 นาย สนับสนุนด้วยรถถัง 11 คัน และรถหุ้มเกราะมากกว่า 20 คัน ได้บุกข้ามชายแดนเข้าในประเทศรัสเซีย ซึ่งกองกำลังประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ขณะที่นายอเล็กซี สเมียร์นอฟ รักษาการผู้ว่าการแคว้นคูสค์ กล่าวเรียกร้องให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมกันบริจาคเลือด และว่า ตนได้รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแคว้นคูสค์ให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน รับทราบแล้ว หลังจากกองกำลังยูเครนแทรกซึมเข้ามาก่อการโจมตี อย่างไรก็ดีนายสเมียร์นอฟ กล่าวว่า สถานการณ์ในภูมิภาคอยู่ภายใต้การควบคุม
ขณะที่หน่วยข่าวกรองทหารของยูเครน ยืนยันในวันพุธ(7 ส.ค.)ว่า กองกำลังยูเครนได้จู่โจมตี เทนดราสปิต สันดอนทรายที่รัสเซียควบคุมอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลดำ โดยได้ทำลายอุปกรณ์และป้องปราการ และทำให้มีผู้เสียชีวิต
หน่วยข่าวกรองยูเครนยังเผยแพร่คลิปวิดีโอแสดงให้เห็นเรือหลายลำขนกำลังทหารและยกพลขึ้นฝั่ง โดยระบุว่าได้ทำลายระบบสงครามอิเล็กทรอนิกและรถหุ้มเกราะหลายคัน และกำลังประเมินการสูญเสียกำลังบุคลากรของฝ่ายรัสเซียอยู่
ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร เจ้าหน้าที่ทางการรัสเซียกล่าวว่า กลุ่มผู้ก่อวินาศกรรมชาวยูเครนพยายามที่จะขึ้นฝั่งที่สันดอนทรายที่รัสเซียครอบครองอยู่
ทั้งนี้สันดอนทรายเทนดรา สปิต ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทางตอนใต้ของแคว้นเคอร์ซอน ในน่านน้ำที่ถูกมองว่ามีความสำคัญต่อการรักษาการเข้าถึงทะเลดำของยูเครน