เกาหลีเหนือเรียกร้องมาเลย์ปล่อย 3 ผู้ต้องสงสัยเอี่ยวฆ่า “คิม จอง นัม”

REUTERS

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าตำรวจชุดสอบสวนของมาเลเซียต้องการสอบปากคำเลขานุการโทของสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำประเทศมาเลเซีย เกี่ยวกับคดีลอบสังหารนายคิม จอง นัม พี่ชายต่างมารดาของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่ถูกลอบสังหารที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ข่าวระบุว่า เลขานุการโทรายนี้เป็นหนึ่งในชาวเกาหลีเหนืออีก 3 คน ที่ทางการมาเลเซียต้องการตัวเพื่อมาสอบปากคำในคดีลอบสังหารนายคิม จอง นัม หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนตำรวจชุดสอบสวนของมาเลเซียได้เผยภาพผู้ต้องสงสัยชาวเกาหลีเหนือ 5 คนที่โยงใยกับเหตุลอบสังหารนี้ออกมา ในจำนวนนี้ 4 คน ได้หลบหนีออกจากมาเลเซียไปแล้ว ส่วนอีกคนอยู่ในความควบคุมตัวของทางการมาเลเซีย

นายคาลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ว่า ได้เขียนหนังสือถึงเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือ เพื่อขอตัวนายฮยอน กวาง ซง เลขานุการโท และพนักงานสายการบินชาวเกาหลีเหนือรายหนึ่ง ชื่อ นายคิม อ๊ก อิล เพื่อมาสอบปากคำในคดีนี้ “เราหวังว่าสถานทูตเกาหลีเหนือจะให้ความร่วมมือกับเราและจะอนุญาตให้เราสอบปากคำคนทั้งสองโดยเร็ว แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น เราจะบังคับพวกเขาให้มาพบ” นายอาบู บาการ์กล่าว

นายอาบู บาการ์ กล่าวอีกว่า ดออ่าน ถิ เฮือง ชาวเวียดนาม อายุ 28 ปี และ สิตี ไอชาห์ ชาวอินโดนีเซีย อายุ 25 ปี สองผู้ต้องสงสัยหญิงเป็นมือลอบสังหาร ได้ถูกฝึกให้เช็ดหน้าผู้ชาย ซึ่งมีการซ้อมในกัวลาลัมเปอร์ ก่อนที่จะลงมือโจมตีจริงที่สนามบิน โดยไอชาห์เป็นคนลงมือใช้ผ้าชุบยาพิษเช็ดหน้าผู้ตายก่อนจะตามมาด้วยนางเฮือง

Advertisement

ส่วนข่าวลือที่ว่านายคิม ฮัน ซอล ลูกชายของนายคิม จอง นัม เดินทางมายังมาเลเซียแล้วนั้น ดูจะไม่ใช่เรื่องจริง จากการที่นายอาบู บาการ์ กล่าวถึงประเด็นเรื่องการคืนศพนายคิม จอง นัม ให้เกาหลีเหนือว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีญาติของผู้ตายมาแสดงตนแต่อย่างใด

วันเดียวกัน สถานทูตเกาหลีเหนือในมาเลเซีย ได้ออกมาเรียกร้องให้มาเลเซียปล่อยตัวผู้ต้องสงสัย 3 คน ซึ่งเป็นหญิงชาวเวียดนาม 1 คน , หญิงชาวอินโดนีเซีย 1 และ และ ชายเกาหลีเหนือ 1 คน ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารนายคิม จอง นัม ในทันที โดยสถานทูตเกาหลีเหนือระบุว่า การจับกุมตัวดังกล่าวเป็นการจับกุมตัวที่ไร้เหตุผล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image