รัสเซียส่งทหาร-รถถัง หวังต้านยูเครนบุกข้ามพรมแดน ถล่มแคว้นคูสค์
สำนักข่าวเอเอฟพี รอยเตอร์ และเอพีรายงานว่า กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ว่าได้ส่งทหาร ปืนใหญ่ รถถัง เครื่องยิงจรวด และรถบรรทุกขนาดใหญ่เพื่อสนับสนุนแนวป้องกันในแคว้นคูสค์ ทางตะวันตกของรัสเซีย รวมถึงมีการประกาศใช้มาตรการต่อต้านการก่อการร้ายในพื้นที่พรมแดน หลังกองทัพยูเครนบุกรุกข้ามพรมแดนเข้ามาในดินแดนของรัสเซีย
ทางการรัสเซียเปิดเผยว่า ทหารยูเครนราว 1,000 นาย พร้อมด้วยรถหุ้มเกราะและรถถังกว่า 24 คัน ได้เข้าร่วมการบุกโจมตีดังกล่าวที่แคว้นคูสค์เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในการโจมตีข้ามพรมแดนเข้ามาในรัสเซียครั้งสำคัญที่สุดนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากเข้ารุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 ทำให้รัสเซียต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในแคว้นดังกล่าว
การบุกโจมตีข้ามพรมแดนของยูเครนดังกล่าวถือเป็นการจู่โจมรัสเซียอย่างไม่ทันตั้งตัว บล็อกเกอร์ด้านกองทัพชื่อดังของรัสเซียได้ออกมาโจมตีผู้นำกองทัพว่าไม่สามารถปราบปรามและพบเห็นการบุกโจมตีดังกล่าวล่วงหน้า กระทรวงกลาโหมของรัสเซียระบุว่ามีการปะทะกันระหว่างกองทัพรัสเซียและยูเครนนอกเมือง Sudzha ทางตะวันตกของรัสเซียที่ตั้งอยู่ห่างจากพรมแดนไปราว 8 กิโลเมตร ซึ่งดูเหมือนจะเป็นตำแหน่งหลักของการบุกโจมตีของยูเครน
หน่วยงานบริการสังคมของรัสเซียได้ช่วยเหลือประชาชนราว 3,000 คนให้ออกจากพื้นที่สู้รบ Institute for the Study of War (ISW) สถาบันคลังสมองที่ประจำอยู่ในกรุงวอชิงตันของสหรัฐอเมริกา ได้ประเมินภาพถ่ายและวิดีโอเพื่อระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ โดยเปิดเผยว่ากองทัพยูเครนสามารถบุกเข้าไปในแคว้นคูสค์ของรัสเซียได้ไกลจากพรมแดนสองประเทศถึง 35 กิโลเมตร แต่กองทัพยูเครนยังไม่สามารถควบคุมพื้นที่ดังกล่าวได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ดี ยูเครนยังไม่ได้ยืนยันการบุกโจมตีข้ามพรมแดนในครั้งนี้อย่างเป็นทางการ แต่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ได้กล่าวเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า รัสเซียจะต้องรับรู้ถึงผลที่ตามมาจากการรุกรานยูเครน ด้านประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ได้กล่าวถึงการบุกข้ามพรมแดนของยูเครนในครั้งนี้ว่าเป็น “การยั่วยุครั้งใหญ่” และฝ่ายผู้บัญชาการระดับสูงของรัสเซียได้ให้คำมั่นว่าจะทำลายการบุกโจมตีของยูเครนให้ได้ นายอเล็กซี สเมียร์นอฟ ผู้ว่าการแคว้นคูสค์ เปิดเผยว่า พลเรือน 5 คนเสียชีวิตในวันแรกของการบุกโจมตี และมีผู้บาดเจ็บอีก 66 คนเมื่อนับจนถึงวันที่ 8 สิงหาคม
ด้านทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ได้ออกแถลงการณ์เตือนทั้งสองฝ่ายถึงอันตราย เพราะการสู้รบดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์คูสค์ และขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์