สธ.แอฟริกาประกาศให้ ‘โรคฝีดาษลิง’ เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในกาฬทวีป
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแอฟริกา หรือแอฟริกา ซีดีซี ประกาศเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ให้โรคฝีดาษลิง หรือเอ็มพ็อกซ์ (mpox) เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของทวีปแอฟริกา หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนเหล่านักวิทยาศาสตร์จากแอฟริกา ซีดีซี ออกมาเตือนว่าพวกเขาได้รับสัญญาณเตือนถึงการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ใหม่ โดยนับจากต้นปีนี้มีรายงานผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมากกว่า 13,000 ราย และมีผู้เสียชีวิต 450 ราย ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์คองโก) และพบว่ามีการลามระบาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านในแอฟริกา รวมถึงในประเทศบุรุนดี สาธารณรัฐแอฟริกากลาง เคนยา และรวันดา
การประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของแอฟริกา จะช่วยให้รัฐบาลต่างๆ ประสานงานในการตอบสนองและอาจเพิ่มการจัดหาเวชภัณฑ์และความช่วยเหลือเข้าไปในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโรคนี้
ดอกเตอร์ฌอง คาเซยา หัวหน้าศูนย์แอฟริกา ซีดีซี เตือนว่า โรคฝีดาษลิงอาจลุกลามจนควบคุมไม่ได้ หากไม่ดำเนินการอย่างทันท่วงทีเพื่อควบคุมโรค นอกจากนี้ยังกล่าวว่ามีแผนที่จะจัดหาวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษให้ได้ราว 10 ล้านโดส เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดในดินแดนกาฬทวีปแห่งนี้ด้วย
“การประกาศนี้ไม่ได้เป็นเพียงพิธีการเท่านั้น แต่ยังเป็นการเรียกร้องอย่างชัดเจนให้มีการดำเนินการ เป็นการยอมรับว่าเราไม่สามารถตอบโต้ได้อีกต่อไป เราจะต้องดำเนินการเชิงรุกในความพยายามของเราเพื่อควบคุมและกำจัดภัยคุกคามนี้” ดอกเตอร์คาเซยากล่าว
ขณะที่หัวหน้าหน่วยงานสาธารณสุขนอกแอฟริกาจะติดตามสถานการณ์เพื่อประเมินความเสี่ยงของการระบาดที่แพร่กระจายต่อไป
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคยุโรปชี้ว่าความเสี่ยงจากไวรัสฝีดาษลิงในทวีปยุโรปนั้นอยู่ในระดับต่ำมาก
ทั้งนี้ไวรัสฝีดาษลิงสามารถแพร่เชื้อจากสัตว์สู่คน และระหว่างคนสู่คนผ่านการติดต่อสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อได้ รวมถึงผ่านการมีเพศสัมพันธ์ การสัมผัสผิวหนัง การพูดคุยหรือหายใจใกล้ชิดกัน
อาการของโรคจะแสดงหลังจากได้รับเชื้อแล้วประมาณ 7-14 วัน โดยจะมีไข้ อ่อนเพลีย ปวดหัว ปวดเมื่อยตามร่างกาย รวมถึงมีตุ่มเล็กๆ คล้ายผื่นขึ้นตามตัว หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้ถึงเสียชีวิตได้
เชื้อฝีดาษลิงที่เป็นที่รับรู้มี 2 สายพันธุ์ สายพันธุ์แรกที่ไม่รุนแรงนักระบาดไปทั่วโลกในปี 2565 ซึ่งส่งผลกระทบต่อยุโรป ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศ กรณีที่ติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากทางเพศสัมพันธ์ และสายพันธุ์ที่เป็นอันตรายถึงตายได้ที่เคยระบาดในแอฟริกากลาง อยู่เบื้องหลังสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งค้นพบในดีอาร์คองโกเมื่อเร็วๆ นี้