ฝนตกหนักทำเขื่อนซูดานแตก กระทบครึ่งแสนครัวเรือน ดับ 30 สูญหาย 200
สหประชาชาติระบุเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้น้ำท่วมเขื่อนอาร์บาต ที่อยู่ห่างจากพอร์ตซูดาน เมืองท่าทางตะวันออกริมทะเลแดงของซูดานในรัฐเรดซีไปทางเหนือราว 40 กิโลเมตร ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา และทำให้เขื่อนแตกจนน้ำไหลท่วมหมู่บ้านอย่างน้อย 20 แห่ง
เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 30 ราย แต่คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจริงน่าจะสูงกว่านั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยคาดว่าจำนวนผู้สูญหายอยู่ที่ 150-200 คน
โอมาร์ ไอส์ซา ฮารูน หัวหน้าหน่วยงานด้านน้ำรัฐเรดซี กล่าวว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเปลี่ยนแปลงไปจนจำไม่ได้ ระบบไฟฟ้าและท่อน้ำถูกทำลายทั้งหมด เขายังได้เห็นศพของคนงานเหมืองทองพร้อมกับอุปกรณ์ทำงานของพวกเขาที่พังเสียหาย โดยเปรียบภัยพิบัติครั้งนี้กับความเสียหายที่เมืองเดอร์นา ทางตะวันออกของลิเบียเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน
สหประชาชาติรายงานโดยอ้างข้อมูลจากหน่วยงานในพื้นที่ว่า บ้านเรือนประชาชนราว 5 หมื่นคนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยเป็นการนับเพียงตัวเลขในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของเขื่อนเท่านั้น เพราะพื้นที่ฝั่งตะวันออกไม่สามารถเข้าถึงได้
เขื่อนอาร์บาตเป็นแหล่งน้ำหลักของเมืองพอร์ตซูดาน ซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าเรือหลักในทะเลแดง และสนามบินที่ใช้งานได้ ทั้งยังเป็นแหล่งน้ำที่ส่งความช่วยเหลือที่จำเป็นไปยังพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศซูดาน ทำให้สมาคมนักสิ่งแวดล้อมของซูดานระบุในแถลงการณ์ว่า เมืองพอร์ตซูดานกำลังเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
เมื่อวันจันทร์ รัฐบาลซูดานระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมทั่วประเทศซูดาน 132 คน เพิ่มขึ้นจาก 68 คนในสองสัปดาห์ก่อนหน้า ด้านสหประชาชาติระบุว่า ชาวซูดานอย่างน้อย 1.18 แสนคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนเพราะฝนตกหนักในปีนี้
ความขัดแย้งทางการเมืองในซูดานทำให้โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ถูกทำลายอย่างหนัก เนื่องจากคู่ขัดแย้งต่างทุ่มเททรัพยากรส่วนใหญ่เพื่อสนับสนุนการสู้รบ จนทำให้โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ถูกละเลย ขณะที่ประชาชนราวครึ่งหนึ่งของชาวซูดาน 50 ล้านคนไม่ได้รับอาหารที่เพียงพอกับความต้องการ