อัดทำเนียบขาว เลือกสื่อเข้าฟังการแถลง กีดกันสำนักข่าวที่วิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์

AFP PHOTO / Brendan Smialowski

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รอยเตอร์ และเอเอฟพีรายงานว่า ทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริกา ห้ามสื่อหลายสำนักเข้าฟังการแถลงสรุปข่าวโดยโฆษกทำเนียบขาวที่ไม่มีการบันทึกภาพ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จุดประเด็นให้เกิดความกังวลในบรรดาองค์กรสื่อว่าอาจขัดกับบทบัญญัติในร่างแก้ไขเพิ่มเติมครั้งแรกของรัฐธรรมนูญสหรัฐว่าด้วยสิทธิเสรีภาพ

สำนักข่าวที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าฟังการแถลงข่าวที่ห้องทำงานของนายฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาว ประกอบไปด้วยซีเอ็นเอ็น นิวยอร์กไทม์ส ลอสแองเจลิสไทม์ส โพลิติโก บัซซ์ฟีด บีบีซี เอเอฟพี และเดอะการ์เดียน ที่ส่วนใหญ่เคยวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ

ทั้งนี้ นายทรัมป์ มักจะกล่าวโจมตีสื่อเป็นประจำโดยกล่าวหาสื่อบางสำนักว่าเป็นพวก “ข่าวปลอม” และระบุว่าสื่อเป็น “ศัตรูของประชาชน”

ข่าวระบุว่าตามปกติแล้ว ทำเนียบขาวจะจัดการแถลงสรุปที่ห้องแถลงข่าวของทำเนียบขาวขึ้นเป็นประจำทุกวัน โดยจะมีทั้งช่วงตอบคำถามผู้สื่อข่าว และมีการถ่ายทอดผ่านทางโทรทัศน์

Advertisement

แต่ทำเนียบขาวได้ยกเลิกวิธีการดังกล่าว และจัดให้มีการแถลงในแบบ “พูดคุย” ที่ห้องทำงานของนายสไปเซอร์แทนในแบบไม่มีการถ่ายทอดหรือบันทึกภาพในวันดังกล่าวนี้ โดยให้เหตุผลว่า “ไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างต่อหน้ากล้องทุกวัน”

รายงานระบุว่า เมื่อผู้สื่อข่าวจากองค์กรสื่อดังกล่าวข้างต้นพยายามที่จะเข้าไปยังห้องทำงานของนายสไปเซอร์เพื่อฟังการแถลงข่าว พวกเขากลับไม่สามารถเข้าได้ โดยได้รับแจ้งว่า ไม่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีของผู้เข้าร่วมฟังการแถลง โดยมีสำนักข่าวราว 10 กว่าแห่งเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าได้ ประกอบไปด้วย รอยเตอร์ เอ็นบีซี เอบีซี ซีบีเอส ฟ็อกซ์นิวส์ บลูมเบิร์ก เอพี ไทม์ วันอเมริกานิวส์เน็ตเวิร์ก บรีทบาร์ทนิวส์ วอชิงตันไทม์ส และเฮิร์สท์

ข่าวระบุว่า ผู้สื่อข่าวของเอพีและนิตยสารไทม์ ประท้วงด้วยการวอล์กเอาท์ออกจากการแถลงข่าวทันทีที่ทราบว่า มีสื่อบางสำนักถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมฟังการแถลงครั้งนี้ ขณะที่เอเอฟพีประท้วงการไม่ได้รับเชิญด้วยการบุกเข้าไปร่วมฟังการแถลงข่าวด้วย

Advertisement

ในแถลงการณ์สั้นๆ ที่เป็นการปกป้องการกระทำดังกล่าว น.ส.ซาราห์ แซนเดอร์ส รองโฆษกทำเนียบขาวระบุว่า “ทำเนียบขาวมีระบบพูลข่าวอยู่แล้ว ดังนั้นทุกคนจะได้รับทราบข่าวและความคืบหน้าจากพวกเราในวันนี้”

การตัดสินใจของสไปเซอร์เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากสื่อหลายสำนักที่ถูกปฏิเสธ

นายเจฟฟ์ เมสัน ประธานสมาคมผู้สื่อข่าวทำเนียบขาว (ดับเบิลยูเอชซีเอ) ระบุว่า “ขอประท้วงอย่างรุนแรงต่อการตัดสินใจของทำเนียบขาว” โดยคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) ของสมาคม จะหารือเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่หลังจากนี้

นายดีน บาเค็ต บรรณาธิการบริหารของนิวยอร์กไทม์ส ระบุในแถลงการณ์ว่า “ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การทำข่าวที่ทำเนียบขาวไม่ว่าจะภายใต้รัฐบาลใดหรือฝ่ายบริหารของพรรคไหน เราขอประท้วงอย่างรุนแรงต่อการกีดกันนิวยอร์กไทม์สและสื่อสำนักอื่น เสรีภาพสื่อและความโปร่งใสของรัฐบาลเป็นสิ่งสำคัญต่อผลประโยชน์ของชาติ”

ด้านซีเอ็นเอ็นทวีตข้อความว่า “นี่เป็นพัฒนาการที่รับไม่ได้ของนายทรัมป์และทำเนียบขาว ที่เห็นได้ชัดว่าเป็นการตอบโต้ต่อการรายงานข้อเท็จจริงที่พวกเขาไม่ชอบ”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image