กต.ปฏิเสธข่าวที่ประชุมองค์กรพุทธทั่วโลกห่วงกรณีวัดพระธรรมกาย

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า ตามที่ปรากฏข่าวว่าผู้นำองค์กรพุทธและเครือข่ายผู้นำองค์กรพุทธในประเทศต่างๆ ที่มาร่วมประชุมสมาคมชาวยุวพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ครั้งที่ 78 ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยกเลิกการใช้มาตรา 44 ต่อวัดพระธรรมกาย งดการควบคุมสื่อ และให้ปฏิบัติต่อพระภิกษุด้วยความเคารพนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ตรวจสอบแล้วทราบว่าสมาคมชาวยุวพุทธศาสนิกชนทั่วโลกกำลังร่วมการประชุมครั้งที่ 78 ณ วัดฮงปอบ จังหวัดปูซาน เกาหลีใต้ จัดขึ้นโดยมูลนิธิ Paramita Foundation ของสาธารณรัฐเกาหลีจริง อย่างไรก็ดีจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นไม่พบว่ามีการหยิบยกประเด็นของวัดพระธรรมกายในการประชุมดังกล่าว ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล จะได้ติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

ข่าวสารนิเทศระบุอีกว่า ตามที่ในห้วงที่ผ่านมาปรากฏว่ามีองค์กรพุทธและเครือข่ายชาวพุทธในต่างประเทศได้มายื่นหนังสือแสดงความห่วงกังวลและเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้มาตรา 44 ต่อวัดพระธรรมกายนั้น กระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยในต่างประเทศทั่วโลกชี้แจงทำความเข้าใจในกรณีดังกล่าวกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องว่า การออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 5/2560 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 เรื่อง มาตรการให้อำนาจกำหนดพื้นที่ควบคุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย มีผลบังคับใช้บริเวณวัดพระธรรมกายตลอดจนพื้นที่โดยรอบวัดพระธรรมกาย นั้น ได้ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏว่ามีบุคคลบางคนหรือบางกลุ่มซึ่งมีข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดและถูกออกหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มิได้ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ตลอดจนปรากฏในห้วงก่อนหน้านี้ว่า ความพยายามในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ถูกขัดขวางโดยมวลชนผู้สนับสนุนของวัดพระธรรมกาย ทั้งนี้ มูลเหตุของสถานการณ์นี้เป็นเรื่องของการละเมิดต่อกฎหมายบ้านเมืองเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ให้มีมาตรการที่เหมาะสมในการควบคุมพื้นที่ในบางพื้นที่ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายสามารถบูรณาการการปฏิบัติในการเข้าตรวจค้นและนำตัวบุคคลตามหมายจับดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รวมทั้งปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่อยู่ในพื้นที่ ทั้งนี้ มาตรการนี้เป็นมาตรการชั่วคราวและจะบังคับใช้เท่าที่จำเป็นต่อสถานการณ์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง รอบคอบและรัดกุม ตามขั้นตอนของกฎหมายและสอดคล้องกับหลักปฏิบัติสากล เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image