“ทรัมป์” แถลงต่อคองเกรสครั้งแรก กลับลำแสดงท่าทีรอมชอมมากขึ้น

REUTERS/Jim Lo Scalzo

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ตามเวลาท้องถิ่้นในสหรัฐอเมริกา ซึ่งตรงกับวันที่ 1 มีนาคมตามเวลาในประเทศไทย ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาสหรัฐอเมริกา หรือคองเกรส ที่อาคารรัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน  สหรัฐอเมริกา  เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ ซึ่งมีการพลิกท่าทีแสดงแนวโน้มประนีประนอมในหลายเรื่อง รวมทั้งกรณีการปฏิรูปนโยบายคนเข้าเมืองแบบยกเครื่อง และท่าทีต่อพันธมิตรของสหรัฐอเมริกา

ผู้นำสหรัฐอเมริกายืนยันว่าฝ่ายบริหารของตนยังคงเปิดกว้างต่อการปฏิรูประบบตรวจคนเข้าเมืองทั้งหมดครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นการแสดงท่าทีประนีประนอมครั้งสำคัญแตกต่างออกไปจากท่าทีแข็งกร้าวของทรัมป์ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงและในช่วงเริ่มต้นของการดำรงตำแหน่ง โดยระบุว่า การปฏิรูปในเรื่องนี้ใหม่หมดยังคงมีความเป็นไปได้หากสมาชิกรัฐสภาของทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครตเต็มใจที่จะแสวงหาแนวทางรอมชอมที่เห็นชอบด้วยกันทั้งสองฝ่าย และย้ำด้วยว่าระบบคนเข้าเมืองของสหรัฐควรอยู่บนพื้นฐานของคุณค่า มากกว่าที่จะให้ความสำคัญไปที่การได้พึ่งพาแรงงานราคาถูก และเชื่อว่าการปฏิรูประบบอย่างสร้างสรรค์สามารถเป็นไปได้ ตราบเท่าที่การปฏิรูปดังกล่าวเน้นเป้าหมายไปที่ การปรับปรุงตำแหน่งงานและค่าจ้างของคนอเมริกัน, การทำให้ความมั่นคงแห่งชาติแข็งแกร่งขึ้นและฟื้นฟูการเคารพกฎหมายอเมริกัน

ในการแถลงต่อรัฐสภาครั้งแรกนี้ทรัมป์ระบุถึงความปรารถนาส่วนตัวว่าต้องการมุ่งเน้นในการแก้ปัญหาภายใน ด้วยการกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวโดยการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่, การลงทุนด้านสาธารณูปโภคมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ และการยกเครื่องกฎหมายประกันสุขภาพที่ประกาศใช้ในสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่เรียกกันว่า “โอบามาแคร์” ทั้งนี้ในกรณีการปฏิรูปภาษีนั้น ทรัมป์ ระบุเพียงว่าต้องการให้มีการปรับลดภาษีครั้งใหญ่เพื่อชนชั้นกลางและลดภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับบริษัทธุรกิจต่างๆ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดจำเพาะเจาะจง และยังไม่ได้แสดงทัศนะใดๆต่อประเด็นทางด้านภาษีสำคัญอย่าง “ภาษีปรับสมดุลทางการค้า” หรือ “บอร์เดอร์ แอดจัสเมนท์ แท็กซ์” เพื่อส่งเสริมการส่งออกลดการนำเข้า ที่สร้างความแตกแยกทางความคิดอย่างหนักในรัฐสภาสหรัฐ

ในประเด็นด้านนโยบายต่างประเทศนั้น ทรัมป์กล่าวถึงเพียงแค่ประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ของสหรัฐอเมริกากับพันธมิตรทั้งหลายด้วยการยืนยันที่จะสนับสนุนการเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงกับมิตรประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประเทศในสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติคเหนือ (นาโต) เพื่อลดความกังวลของพันธมิตรและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทั้งในยุโรป, ตะวันออกกลางและแปซิฟิกลง แต่ยังคงยืนกรานว่า พันธมิตรเหล่านั้นต้องจ่ายค่าตอบแทนของต้นทุนความมั่นคงที่ได้รับอย่างยุติธรรม และย้ำโดยไม่จำเพาะเจาะจงใดๆว่า ตอนนี้เริ่มมีเงินไหลเข้ามาแล้ว

Advertisement

ทั้งนี้หลายฝ่ายแสดงปฏิกิริยาต่อถ้อยแถลงครั้งนี้แตกต่างกันออกไป ฝ่ายผู้สนับสนุนทรัมป์อ้างว่า ถือเป็นการแถลงที่วิเศษสุด ในขณะที่สื่อที่เป็นกลาง รวมทั้ง บีบีซี ให้ความเห็นว่าเป็นถ้อยแถลงที่มีความเป็นคำกล่าวของประธานาธิบดีมากกว่าทุกครั้งรวมทั้งสุนทรพจน์เมื่อแรกรับตำแหน่งอีกด้วย ส่วน ทิม กริสคีย์ หัวหน้าแผนกเพื่อการลงทุนของกลุ่มบริษัทโซลาริส ให้ความเห็นว่า ถือเป็นการแสดงด้านนุ่มนวลของทรัมป์ออกมาเป็นครั้งแรก แต่ยังไม่ได้มีอะไรใหม่อย่างที่ตลาดคาดหวัง โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กสะท้อนแนวคิดดังกล่าวออกมาด้วยการปรับตัวสูงขึ้นเมื่อทรัมป์เริ่มกล่าว ก่อนที่ดัชนีจะปรับตัวอ่อนลงเมื่อสิ้นสุดการแถลง เช่นเดียวกับค่าเงินดอลลาร์ในตลาดเอเชียที่ปรับตัวอ่อนค่าลงจากตอนแรกที่แข็งค่าขึ้นมาก เนื่องจากไม่ได้รายละเอียดของการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างที่คาดหวัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image