| ที่มา | คอลัมน์ ไฮไลต์โลก มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | มนต์ทิพย์ ธานะสุข [email protected] |
| เผยแพร่ |
ไม่แปลกที่ “เงินเดือน” และ “สิทธิประโยชน์” จะถูกระบุว่าเป็นแรงจูงใจสูงสุดสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่กำลังหางานทำ
แต่ก็ใช่ว่าทั้งหมดที่จะคำนึงถึงแต่เรื่องเงินเดือนหรือแค่ผลประโยชน์
ที่จะได้รับจากนายจ้างเท่านั้น เพราะมนุษย์งานอีกหลายคนก็ให้น้ำหนักกับ “สมดุล” ของการใช้ชีวิตกับการทำงานเป็นสิ่งสำคัญมากกว่า
มุมมองเรื่องนี้เป็นการสำรวจคนทำงานในประเทศสิงคโปร์ จากการสำรวจศึกษาของ “เฮย์ส” บริษัทจัดหางานและทรัพยากรบุคคลชั้นนำในประเทศอังกฤษ ที่ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างเป็นนายจ้างกว่า 3,000 ราย และลูกจ้างกว่า 6 ล้านคน ในประเทศจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ ระบุถึงกลุ่มคนที่กำลังหางานทำในประเทศสิงคโปร์ว่า ผู้ที่กำลังหางานทำมากถึงร้อยละ 43 ในสิงคโปร์ มีตัวอัตราเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ เป็นที่ตั้งแรงจูงใจสูงสุดในการมุ่งหางาน ขณะที่ร้อยละ 60 มองว่า การใช้ชีวิตและการทำงานจะต้องอยู่บนความสมดุล เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้พวกเขาทำงานที่กำลังทำอยู่ต่อไปหรือไม่
ร้อยละ 37 ยังบอกว่า กำลังหางานทำใหม่ และร้อยละ 48 บอกว่า เปิดรับโอกาสใหม่ๆ ที่จะมีเข้ามาเสมอ ขณะที่ร้อยละ 30 ต้องการได้บทบาทใหม่ภายใน 6 เดือนข้างหน้านี้ และอีกร้อยละ 22 คาดหวังว่าตนเองจะได้เปลี่ยนงานใหม่ภายในปีนี้
ลินน์ โรเดอร์ กรรมการผู้จัดการของบริษัท เฮย์ส ประจำสิงคโปร์ กล่าวว่า 1 ใน 3 ของแรงงานที่กำลังคิดถึงเรื่องการเปลี่ยนงาน ทำให้เหล่านายจ้างจำเป็นจะต้องหันมาคิดทบทวนให้ดีว่าอะไรเป็นแรงผลักให้ลูกจ้างคิดมองหางานใหม่ ขณะเดียวกันก็ต้องทบทวนเรื่องสิ่งจูงใจของบริษัทตนเองที่มีอยู่ในการจะดึงคนงานเหล่านั้นเอาไว้
ผลการสำรวจยังระบุอีกว่า แรงจูงใจสูงสุดสำหรับคนที่กำลังมองหางานทำในสิงคโปร์คือ เงินเดือนหรือสิทธิประโยชน์มากถึงร้อยละ 43 รองลงมาคือความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ร้อยละ 36, ความต้องการความท้าทายใหม่ ร้อยละ 36, รูปแบบการจัดการหรือวัฒนธรรมองค์กร ร้อยละ 29, การฝึกอบรมหรือโอกาสในการพัฒนา ร้อยละ 21, ความมั่นคงในการทำงาน ร้อยละ 17, สถานที่ตั้งของออฟฟิศ ร้อยละ 11 และความสมดุลในการใช้ชีวิตกับการทำงานที่แย่ร้อยละ 10
ขณะที่ความสมดุลของชีวิตกับการทำงานยังเป็นปัจจัยดึงดูดสำคัญของผู้ที่กำลังหางานทำในจีนและฮ่องกง ส่วนคนญี่ปุ่นให้น้ำหนักกับความก้าวหน้าในหน้าที่การงานเป็นสำคัญ ส่วนในมาเลเซียให้ความสำคัญกับอัตราเงินเดือนเป็นแรงจูงใจสูงสุด
