นักวิทย์ยัน ดาวเคราะห์พุ่งชนโลก เหตุทำไดโนเสาร์สูญพันธุ์ ไม่ได้มีแค่ดวงเดียว

นักวิทย์ยัน ดาวเคราะห์พุ่งชนโลก เหตุทำไดโนเสาร์สูญพันธุ์ ไม่ได้มีแค่ดวงเดียว

สำนักข่าว บีบีซี เผยผลงานวิจัยในวารสาร Nature Communications Earth & Environment ว่า นักวิทย์ยืนยัน ดาวเคราะห์น้อยที่พุ่งชนโลก เมื่อ 66 ล้านปีก่อน ที่เป็นเหตุให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์นั้น ไม่ได้มีแค่ดวงเดียว

ด้าน ดร. อูอิสดีน นิโคลสัน มหาวิทยาลัยเฮริออต-วัตต์ ประเทศสกอตแลนด์ เผยว่า เขาและเพื่อนร่วมงานค้นพบ ดาวเคราะห์น้อยคล้ายหินอวกาศลูกที่สอง พุ่งลงไปในทะเลนอกชายฝั่งแอฟริกาตะวันตก ทำให้เกิดหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ในยุคเดียวกัน

โดยค้นพบหลุมอุกกาบาตนาดีร์เป็นครั้งแรกในปี 2565 แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนว่าหลุมอุกกาบาตนี้ก่อตัวขึ้นมาได้อย่างไร แต่ขณะนี้ ดร. นิโคลสันและเพื่อนร่วมงานของเขา แน่ใจแล้วว่า แอ่งน้ำที่มีระยะทาง 9 กม. เกิดจากดาวเคราะห์น้อยพุ่งเข้าไปในก้นทะเล

ทว่าพวกเขาไม่สามารถระบุวันที่ของเหตุการณ์ได้อย่างแน่ชัด หรือบอกไม่ได้ว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนหรือหลังดาวเคราะห์น้อยอีกดวงพุ่งชนโลก จนเกิดหลุมอุกกาบาตชิกซูลับ ที่กว้าง 180 กิโลเมตรในเม็กซิโก จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้การดำรงอยู่ของพวกเหล่าไดโนเสาร์ในช่วงปลายยุคครีเทเชียสนั้นสิ้นสุดลงด้วย

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ตาม พวกเขาวิเคราะห์ว่า เป็นเรื่องผิดปกติที่ดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่จะพุ่งออกจากระบบสุริยะของเรา โดยกำลังมุ่งหน้ามายังโลกภายในเวลาอันสั้น แต่บรรดานักวิจัยไม่ทราบว่า เหตุใดดาวเคราะห์ทั้ง 2 ดวงจึงพุ่งชนโลกใกล้กัน

ซึ่งดาวเคราะห์น้อยที่ก่อให้เกิดหลุมอุกกาบาตนาดีร์ที่ถูกค้นพบนั้น มีความกว้างประมาณ 450-500 เมตร และนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า มันพุ่งชนโลกด้วยความเร็วประมาณ 72,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทั้งนี้ นักวิทย์ได้จำลอง เหตุการณ์หากดาวเคราะห์น้อย 2 ดวงนี้พุ่งชนโลกไว้ว่า“ลองนึกภาพว่าดาวเคราะห์น้อยกำลังพุ่งชนเมืองกลาสโกว์ และคุณอยู่ในเมืองเอดินบะระ ห่างออกไปประมาณ 50 กิโลเมตร ลูกไฟจะมีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ประมาณ 24 เท่า

มันสามารถทำให้ต้นไม้และพืชต่างๆ ในมืองลุกไหม้ได้ และก่อให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาดประมาณ 7 ริกเตอร์ตามมา อีกทั้งน้ำจำนวนมหาศาลน่าจะไหลออกจากก้นทะเล แล้วไหลบ่าลงในภายหลังสร้างรอยประทับที่แปลกประหลาดลงบนพื้นขึ้น” เขากล่าวเสริม

โดยมนุษย์เคยเข้าใกล้เหตุการณ์ร้ายแรงระดับนี้ อย่าง การระเบิดที่ตุงกุสคา ในปี พ.ศ. 2451 ที่ไซบีเรียของประเทศรัสเซีย จากเหตุอุกกาบาตลึกลับพุ่งชนโลก มีกำลังแรงขนาดเทียบเท่ากับขนาดของระเบิด TNT ความแรงระดับ 30 เมกะตัน ทำให้ลูกไฟพุ่งลงมาจากฟ้า เผาต้นไม้กว่า 80 ล้านต้น