เผยอิสราเอลไม่รับปาก ไม่แตะโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน ไบเดนพลิ้วแนะทางเลือกอื่น แทนถล่มแหล่งน้ำมัน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา (เอเอฟพี)

เผยอิสราเอลไม่รับปาก ไม่แตะโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน ไบเดนพลิ้วแนะทางเลือกอื่น แทนถล่มแหล่งน้ำมัน

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐในวันศุกร์ (4 ต.ค.) ว่า อิสราเอลไม่ได้ให้การรับรองใดๆ กับรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนว่าการกำหนดเป้าหมายโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านนั้นจะไม่อยู่ในการพิจารณาของอิสราเอลในการตอบโต้เอาคืนอิหร่านที่ระดมยิงขีปนาวุธเกือบ 200 ลูกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวบอกอีกว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะบอกได้ว่าอิสราเอลจะใช้วันครบรอบ 1 ปีที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้วในการลงมือตอบโต้อิหร่านหรือไม่ด้วย

“เราหวังและคาดหวังว่าจะได้เห็นปัญญาและความเข้มแข็ง แต่อย่างที่รู้ดีว่าไม่มีอะไรรับประกันได้” เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวกับซีเอ็นเอ็น เมื่อถูกถามว่าอิสราเอลได้ให้ความเชื่อมั่นกับสหรัฐหรือไม่ว่าการโจมตีโครงสร้างนิวเคลียร์อิหร่านจะไม่อยู่ในการพิจารณา

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐหลายรายได้ส่งเสียงสนับสนุนอิสราเอลในการตอบโต้อิหร่าน โดยหลายคนกล่าวว่าอิหร่านจะต้องได้รับผลที่ตามมา ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สหรัฐหลายคนก็ได้แสดงความกังวลว่าไฟแห่งความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางจะลุกลามบานปลาย

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่า สหรัฐไม่สนับสนุนอิสราเอลในการมุ่งเป้าโจมตีโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ขณะที่ในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ ไบเดนยังกล่าวแนะอิสราเอลไม่ให้โจมตีแหล่งน้ำมันของอิหร่านด้วย

“หากผมเป็นเขา ผมจะคิดหาทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการโจมตีแหล่งน้ำมัน” ไบเดนกล่าวกับผู้สื่อข่าว เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความเห็นของไบเดนก่อนหน้านี้ที่ยอมรับว่ากำลังหารือกับพันธมิตรถึงความเป็นไปได้ในการโจมตีแหล่งน้ำมันของอิหร่าน ซึ่งความเห็นดังกล่าวของไบเดนนั้นได้ดันให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในทันที

นอกจากนี้ ไบเดนกล่าวอีกว่าอิสราเอลยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะทำอย่างไรและจะทำอะไรในการตอบโต้อิหร่านจากการถูกโจมตีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐบอกกับซีเอ็นเอ็นอีกว่า สหรัฐได้ทำงานมาเกือบ 1 ปีแล้วเพื่อป้องกันความขัดแย้งลุกลามกลายเป็นสงครามครั้งใหญ่กว่า และจนถึงตอนนี้ก็ยังทำเช่นนั้น ซึ่งตอนนี้สถานการณ์กำลังเป็นที่น่าวิตก