ผู้นำฮังการีชี้ ‘ทรัมป์’ ส่อถอนตัวพ้นศึกยูเครน จี้ยุโรปทบทวนท่าที ย้ำหนุนเคียฟเองไม่ไหว
นายวิคเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการี กล่าวก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ว่า อียูจำเป็นต้องพิจารณาทบทวนการให้การสนับสนุนยูเครน หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เนื่องจากยุโรปไม่สามารถที่จะจัดหาเงินทุนสนับสนุนสงครามเพียงลำพังได้
ทั้งนี้ ทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์การให้การสนับสนุนของสหรัฐแก่ยูเครนในการทำสงครามต่อต้านปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซียที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2022 จนถึงก่อนการเลือกตั้ง โดยทรัมป์สัญญาว่าเขาจะหาทางยุติความขัดแย้งตั้งแต่ก่อนที่จะได้รับชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ไม่ได้อธิบายว่าเขาจะยุติมันลงโดยวิธีใด
อนาคตของความช่วยเหลือจากยูเครนเป็นหนึ่งในคำถามสำคัญที่อียูต้องเผชิญหลังจากชัยชนะของทรัมป์ โดยภูมิภาคนี้ดิ้นรนที่จะยืนหยัดในแนวร่วมและสองมหาอำนาจใหญ่ของภูมิภาคต่างก็ประสบปัญหาภายใน เยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป รัฐบาลก็เพิ่งจะล่มสลาย ขณะที่ฝรั่งเศส ก็ประสบปัญหาการเมืองอ่อนแอลงอย่างมาก
ออร์บันซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของทรัมป์ กล่าวกับวิทยุกระจายเสียงแห่งรัฐเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ก่อนการประชุมสุดยอดอียูอย่างไม่เป็นทางการที่เขาเป็นเจ้าภาพในเมืองหลวงของฮังการีว่า ชาวอเมริกันจะเลิกทำสงครามนี้ ก่อนอื่นคือพวกเขาจะไม่สนับสนุนสงคราม
“ยุโรปไม่สามารถจัดหาเงินทุนสำหรับสงครามนี้เพียงลำพังได้… บางคนยังคงต้องการส่งเงินจำนวนมหาศาลให้กับสงครามที่พ่ายแพ้ครั้งนี้ แต่จำนวนผู้ที่ยังคงนิ่งเฉย… และผู้ที่โต้แย้งอย่างระมัดระวังว่าเราควรปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่กำลังเพิ่มขึ้น” ออร์บันกล่าว
นอกเหนือจากสหรัฐอเมริกาแล้ว อียูและประเทศสมาชิกยังเป็นผู้บริจาคความช่วยเหลือด้านการทหารและการเงินให้กับยูเครนรายใหญ่ที่สุด และผู้นำอียูส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันให้เดินหน้าต่อไปในเส้นทางเดิม
โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ย้ำจุดยืนดังกล่าวอีกครั้งในบูดาเปสต์ว่ายุโรปจำเป็นต้องเสริมกำลังป้องกันตนเองด้วย “รัสเซียได้รุกรานยูเครนและยังคงทำสงครามต่อไปด้วยความโหดร้ายที่ไม่เปลี่ยนแปลง คำถามหนึ่งที่ชัดเจนมาก: ในฐานะอียูและชาวยุโรป เราต้องร่วมกันทำสิ่งที่จำเป็นเพื่อความมั่นคงของเรา ซึ่งจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งหากทุกคนมีส่วนร่วม”
ออร์บันเรียกร้องให้หยุดยิงทันทีในยูเครน ตามด้วยการเจรจาสันติภาพระหว่างเคียฟและมอสโก แต่คำเรียกร้องดังกล่าวถูกปฏิเสธอย่างหนักแน่นโดยประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน
เซเลนสกีกล่าวเพียงไม่กี่นาทีหลังเออร์บันเสนอให้หยุดยิงว่า มันเป็นความท้าทายที่น่ากลัวมากสำหรับพลเมืองของเรา ก่อนอื่นต้องหยุดยิง จากนั้นเราจะได้เห็นกัน คุณเป็นใคร ลูกๆ ของคุณกำลังจะตายหรือไม่ ผู้เสนอให้หยุดยิงเป็นผู้นำที่ต่อต้านการให้ยูเครนเข้าร่วมนาโต ลองนึกดูสิ… นี่เป็นเรื่องไร้สาระและย้อนแย้ง”
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอียูกล่าวว่า มีเพียงออร์บันและโรเบิร์ต ฟิโก นายกรัฐมนตรีสโลวาเกียเท่านั้นที่เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงแนวปฏิบัติต่อยูเครนในงานเลี้ยงอาหารค่ำของผู้นำอียูที่บูดาเปสต์เมื่อเย็นวันที่ 7 พฤศจิกายน ขณะที่คนอื่นๆ บอกว่ากลยุทธ์ปัจจุบันได้ผล กระนั้นก็ดีผู้นำอียูรู้ดีว่าพวกเขาอาจเผชิญกับแนวโน้มที่สหรัฐจะตัดการสนับสนุนยูเครนภายใต้การนำของทรัมป์ และเริ่มหารือกันว่าพวกเขาจะตอบสนองอย่างไรในกรณีดังกล่าว
ฟิโก ซึ่งระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนหลังจากเข้ารับตำแหน่งเมื่อปีที่แล้วกล่าวว่า สโลวาเกียจะคัดค้านการที่อียูจะเข้ามารับผิดชอบทางการเงินต่อยูเครน หากสหรัฐภายใต้การนำของทรัมป์จำกัดหรือยุติความช่วยเหลือ
ในวิดีโอที่โพสต์บนหน้าเฟซบุ๊กของเขา ฟิโกกล่าวว่าหากอียูสามารถหาเงินให้ยูเครนได้ ก็ควรมีเงินเพียงพอที่จะจ่ายสำหรับการต่อสู้กับการอพยพที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเขาเรียกว่าเป็น “ภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่” ของอียู พร้อมเน้นย้ำว่าหากเราต้องการเงินสำหรับยูเครน เราต้องมีเงินสำหรับปัญหาที่คุกคามอียูมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
