สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ว่า นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาทำการผลักดันข้อเสนอให้รัฐสภาแห่งสหรัฐอเมริกาปิดเรือนจำอ่าวกวนตานาโม ที่ตั้งอยู่ในประเทศคิวบาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนหมดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของตน พร้อมเรียกร้องสภาผู้แทนราษฎรที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากรับฟังอย่างปราศจาการอคติ ย้ำไม่ต้องการส่งต่อประเด็นนี้ให้แก่ว่าที่ประธานาธิบดี
นักโทษเรือนจำอ่าวกวนตานาโมรวบรวมตัวมาจากต่างประเทศ ตั้งแต่สหรัฐเข้าสู่สงครามในอิรักและอัฟกานิสถานภายหลังเหตุการณ์ 11 กันยายน 2544 เรือนจำแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการควบคุมอย่างรุนแรงจนทำให้สหรัฐต้องเจอข้อครหาการใช้การทรมานกับผู้ถูกคุมขัง หลายคนถูกคุมขังมานานนับทศวรรษโดยไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาคดี
กฎหมายสหรัฐห้ามการส่งนักโทษเข้าประเทศ และโอกาสที่สมาชิกสภานิติบัญญัติจะยกเว้นข้อบังคับนี้เป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะในปีเลือกตั้ง
นายมิตช์ แม็คคอนเนล ผู้นำวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันระบุจะทำการทบทวนแผนของประธานาธิบดีโอบามา แต่ด้วยแผนดังกล่าวนี้เป็นการนำผู้ก่อการร้ายอันตรายเข้าสู่ประเทศ ประธานาธิบดีโอบามาควรรู้ว่าเจตจำนงสองฝ่ายแห่งรัฐสภาสหรัฐชี้ว่าข้อเสนอนี้ขัดแล้ว
ขณะที่นายพอล ไรอัน โฆษกสภาผู้แทนราษฎรประจำพรรครีพับลิกัน ระบุว่า ประธานาธิบดียังไม่สามารถโน้มน้าวให้ประชาชนเชื่อได้เลยว่าการเคลื่อนย้ายนักโทษเข้าประเทศนั้นปลอดภัยและเป็นทางเลือกอันชาญฉลาด
หากปิดเรือนจำ นักโทษบางส่วนจะถูกส่งตัวไปต่างประเทศหรือย้ายเข้าสหรัฐซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติเห็นค้าน แต่ประธานาธิบดีโอบามาระบุว่าสหรัฐมีนักโทษร้ายแรงในประเทศอยู่แล้ว และสามารถควบคุมให้ไม่เกิดเหตุร้ายแรงได้
