
รีพับลิกันครองอำนาจเบ็ดเสร็จ ทรัมป์ล้างบางเพนตากอน จ่อไล่นายทหารชุดใหญ่!
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คณะทำงานของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 และกำลังจะดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า ลิสต์รายชื่อนายทหารจำนวนมากเพื่อที่จะไล่ออกจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งรวมถึงคณะเสนาธิการร่วม ซึ่งล้วนแต่เป็นเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงในกองทัพสหรัฐ ประกอบไปด้วยผู้บังคับบัญชาทหารบก ทหารเรือ นาวิกโยธิน ทหารอากาศ กองกำลังพิทักษ์ชาติและกองกำลังอวกาศ
หากกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นจริง กระทรวงกลาโหมของสหรัฐ หรือที่เป็นที่รู้จักกันในนามเพนตากอนจะเกิดการปั่นป่วนเป็นอย่างมาก โดยมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สนิทสนมกับนายมาร์ก มิลเล่ย์ อดีตประธานคณะเสนาธิการร่วมของรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก ซึ่งได้โจมตีทรัมป์ว่าเขาเป็นฟาสซิสต์โดยเนื้อแท้ จะถูกไล่ออกทั้งหมด และเขายังเป็นเป้าหมายของพันธมิตรทรัมป์ที่จะจัดการสำหรับการที่เขาไม่ซื่อสัตย์ต่อว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 นี้
ทั้งนี้ ไม่ได้เป็นที่แน่ชัดว่าทรัมป์สนับสนุนมาตรการเช่นนี้หรือไม่ ทว่าในอดีตทรัมป์โต้กลับผู้นำด้านความมั่นคงที่ได้วิจารณ์เขา และเคยกล่าวระหว่างการรณรงค์หาเสียงว่าเขาจะไล่ผู้บังคับบัญชาที่มีแนวคิด ‘โว้ก’ ซึ่งเป็นการตื่นตัวทางการเมืองอย่างสุดโต่ง ออกทั้งหมด รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องถอดถอนกองกำลังทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถานเมื่อปี 2021 ด้วย
ขณะที่นายพีท เฮกเซธ ผู้ที่ถูกเลือกให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เคยส่งสัญญาณผ่านงานเขียนของเขาในปี 2024 ว่า เขาต้องการที่จะล้างบางเพนตากอนเช่นกัน
“ผู้นำสหรัฐคนต่อไปจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงกลาโหมของสหรัฐครั้งใหญ่ เพื่อให้สหรัฐสามารถปกป้องประเทศและจัดการกับศัตรูได้ มีคนจำนวนมากจะต้องถูกไล่ออก” เฮกเซธระบุ
ในขณะเดียวกันสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ผลการเลือกตั้งล่าสุดชี้ว่าพรรครีพับลิกันมีอำนาจเบ็ดเสร็จในรัฐบาลสหรัฐ โดยขณะนี้สมาชิกพรรครีพับลิกันสามารถคว้าเก้าอี้ในสภาผู้แทนราษฎรที่มีสมาชิกทั้งสิ้น 435 คน ได้แล้ว 218 เก้าอี้ ทั้งนี้ สำนักข่าวซีบีเอสคาดการณ์ว่า จำนวนที่นั่งของสมาชิกรีพับลิกันจะมีแนวโน้มอยู่ระหว่าง 220 ถึง 222 ที่นั่ง
อีกทั้ง ในสภาสูงที่มีสมาชิกทั้งหมด 100 คน พรรครีพับลิกันจะควบคุม 53 ที่นั่ง ขณะที่พรรคเดโมแครตและสมาชิกอิสระที่สนับสนุนพรรคเดโมแครตจะได้ที่นั่งรวม 47 ที่นั่ง ทำให้พรรครีพับลิกันมีเสียงข้างมากทั้งในฝ่ายนิติบัญญัติและบริหารในรัฐบาลสมัยถัดไปด้วย