ประเทศโลกใต้โวย งบหนุนแก้ไขโลกร้อน 3 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี ไม่พอ
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ณ ที่ประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 29 (COP29) จัดขึ้นที่กรุงบากู อาเซอร์ไบจาน ประเทศที่เข้าร่วมประชุมดังกล่าวบรรลุข้อตกลงการจัดหาเงินสนับสนุนการแก้ไขปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศแก่ประเทศกำลังพัฒนามูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีจนถึงปี 2035 ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าข้อตกลงเดิมที่มีมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่บรรลุเมื่อปี 2022 แต่กำลังจะหมดอายุในปี 2025
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาวิจารณ์จำนวนเงินดังกล่าวนั้นว่าไม่เพียงพอ ในขณะเดียวกันมีการตำหนิอาเซอร์ไบจาน ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมด้วยว่า เร่งรีบในการตัดสินใจผ่านข้อตกลงงบประมาณเพียงเท่านี้เร็วเกินไป
ตัวแทนรัฐบาลอินเดียระบุในช่วงการปิดประชุมว่า ตนเสียใจที่จะบอกว่าข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้มีค่าอะไร นอกจากเป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้น อีกทั้งกล่าวเพิ่มว่า ข้อตกลงนี้ในมูลค่าเพียงเท่านี้จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่กำลังถูกเผชิญได้ จึงขอคัดค้านการรับรองข้อตกลงนี้
อย่างไรก็ตาม นายไซมอน สตีลล์ เลขาธิการบริหารของกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตระหนักถึงความยากลำบากในการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงจัดการเงินสนับสนุน แต่ข้อตกลงนี้ก็ได้เป็นผลของการประชุมและหลักประกันว่ามนุษยชาติจะร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ
“มันเป็นการเดินทางที่ยากลำบาก แต่พวกเราก็สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ข้อตกลงนี้จะช่วยส่งเสริมพลังงานสะอาดและคุ้มกันกว่าพันล้านชีวิต แต่ก็เหมือนกับการประกัน เรื่องนี้จะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อค่าใช้จ่ายนั้นถูกจ่ายเต็มจำนวนและตรงเวลา” สตีลล์กล่าว
นอกจากนี้ ข้อตกลงนี้ยังเป็นรากฐานของการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศปีหน้า ซึ่งจะจัดขึ้นที่แอมะซอน ประเทศบราซิล ด้วย