สูงสุดเป็นประวัติการณ์! ปูตินอัดงบกลาโหมปีหน้า กว่า 4.9 ล้านล้าน
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียอนุมัติงบประมาณรายจ่ายด้านการป้องกันประเทศในปี 2025 ที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึงราว 32.5% ของงบประมาณรายจ่ายทั้งหมด ขณะที่รัสเซียกำลังเร่งเครื่องเพื่อเอาชนะสงครามยูเครน
งบด้านความมั่นคงของรัสเซียในปีหน้าที่มีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของรัฐบาลเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม สูงถึง 13.5 ล้านล้านรูเบิล หรือกว่า 4.998 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 28.3% ในปีนี้ โดยสมาชิกสภาดูมาทั้งสองสภาของรัสเซียได้อนุมัติแผนงบประมาณดังกล่าวไปตั้งแต่ 10 วันก่อนหน้า
การรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบของรัสเซียเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ถือเป็นความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่สุดของยุโรปตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยยูเครนได้รับความช่วยเหลือหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐจากชาติพันธมิตรตะวันตก แต่กองกำลังของรัสเซียมีขนาดใหญ่และมีอุปกรณ์ที่ดีกว่า และในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียได้ค่อยๆ ผลักดันกองกำลังยูเครนให้ถอยร่นกลับไปในพื้นที่ทางตะวันออก ซ้ำยังมีการโจมตียูเครนอย่างหนักหลังจากยูเครนใช้อาวุธที่ได้จากสหรัฐและอังกฤษโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซียอีกด้วย
การเพิ่มงบด้านความมั่นคงของรัสเซียยังมีขึ้นในเวลาเดียวกับที่นายอันโตนิโอ คอสตา ประธานสภายุโรปคนใหม่ และนางคาจา คัลลาส หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) เดินทางถึงกรุงเคียฟในวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง พร้อมกับส่งสารที่แสดงความสนับสนุนยูเครนอย่างแข็งขัน การมาเยือนของพวกเขาเกิดขึ้นในขณะที่ความสงสัยเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นว่ายูเครนจะสามารถคาดหวังอะไรจากรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐที่นำโดยโดนัลด์ ทรัมป์ได้บ้าง
คอสตาโพสต์บนเอ็กซ์ว่า “ตั้งแต่วันแรกของสงคราม สหภาพยุโรปยืนเคียงข้างยูเครน” และ “ตั้งแต่วันแรกของการดำรงตำแหน่ง เราขอยืนยันอีกครั้งว่าเรายังคงสนับสนุนประชาชนชาวยูเครนอย่างไม่ลดละ”
ในการแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน คอสตาย้ำถึงความมุ่งมั่นล่าสุดของอียูที่จะช่วยให้ยูเครนเดินหน้าสงครามต่อไปได้ ซึ่งรวมถึงการจัดสรรเงิน 4,200 ล้านยูโร หรือกว่า 1.51 แสนล้านบาท เพื่อสนับสนุนงบประมาณของยูเครน และเงินช่วยเหลืออีก 1,500 ล้านยูโร หรือกว่า 5.4 หมื่นล้านบาทต่อเดือนซึ่งมาจากรายได้จากทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้
เมื่อถูกถามว่าสหภาพยุโรปจะเพิ่มเงินสนับสนุนยูเครนอีกหรือไม่หากทรัมป์ถอนการสนับสนุน คอสตากล่าวว่าอียูจะยืนหยัดเพื่อยูเครนตราบเท่าที่จำเป็น
ด้านเซเลนสกีกล่าวว่าการเจรจาหยุดยิงกับรัสเซียในอนาคตจะต้องมีตัวแทนจากอียูและองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เข้าร่วม เนื่องจากยูเครนดูเหมือนจะเป็นความมั่นคงในอนาคตของทั้งสองพันธมิตร พร้อมเสริมว่ายูเครนจะไม่มีวันรับรองว่าการยึดครองดินแดนของเราโดยรัสเซียเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย
เซเลนสกียังเรียกร้องให้รัฐบาลไบเดนที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งใช้เวลาสองเดือนที่เหลือในการสร้างอิทธิพลเหนือผู้ไม่เชื่อมั่นในยุโรปไม่กี่คนเกี่ยวกับอนาคตของเรา
เซเลนสกียังบอกด้วยว่า เขาไม่เห็นความเสี่ยงใดๆ เช่นเดียวกับประเทศสมาชิกนาโตส่วนใหญ่ไม่เห็นความเสี่ยงใดๆ จากคำแนะนำเกี่ยวกับอนาคตของการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน