‘มิน อ่อง ลาย’ ยัน เดินหน้าจัดเลือกตั้งให้สำเร็จ ผลสำมะโนประชากรเผยมีชาวเมียนมา 51.3 ล้านคน

แฟ้มภาพ / REUTERS

‘มิน อ่อง ลาย’ ยัน เดินหน้าจัดเลือกตั้งให้สำเร็จ ผลสำมะโนประชากรเผยมีชาวเมียนมา 51.3 ล้านคน

พลเอกอาวุโสมิน อ่อง ลาย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวถึงการจัดการเลือกตั้งระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ปีใหม่ที่มีการเผยแพร่ในสื่อของรัฐว่า เขามุ่งมั่นที่จะจัดการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของสภาบริหารแห่งรัฐให้สำเร็จ

คำกล่าวของผู้นำเมียนมามีขึ้นในวันเดียวกับที่สื่อของเมียนมาได้รายงานผลสำรวจสำมะโนประชากรของเมียนมาในวันที่ 1 มกราคม ซึ่งเป็นการเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นว่า ประชากรเมียนมาในปี 2024 มี 51.3 ล้านคน ซึ่งลดลงเล็กน้อยจาก 10 ปีก่อน

รายงานระบุว่า ประชากรเมียนมาในปี 2024 อยู่ที่ 51.3 ล้านคน ลดลงจาก 51.5 ล้านคนในการสำรวจครั้งก่อนในปี 2014 โดยชาวโรฮีนจาซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยของประเทศไม่ได้ถูกรวมอยู่ในการสำรวจสำมะโนประชากรทั้งสองครั้ง

ADVERTISMENT

รายงานระบุว่า มีประชากร 32.2 ล้านคนที่สำรวจได้ และยังมีการประมาณการว่ามีประชากรอีก 19.1 ล้านคนอยู่ในพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ เนื่องจากปัญหาความปลอดภัยและการขนส่ง โดยการประมาณจำนวนประชากร ดังกล่าวอาศัยภาพถ่ายดาวเทียมความละเอียดสูงที่ได้รับมาจากผู้ให้บริการเชิงพาณิชย์ในรัสเซีย จีน อินเดีย และประเทศต่างๆ ในยุโรป

ทั้งนี้ ตัวเลขสำมะโนประชากรของเมียนมาล่าสุดต่ำกว่าที่ธนาคารโลกคาดการณ์ไว้ว่าในปี 2024 ที่ 54.5 ล้านคน อ้างอิงจากรายงานแนวโน้มประชากรโลกของสหประชาชาติ ธนาคารโลกประมาณการว่าประชากรของเมียนมาอยู่ที่ 50.7 ล้านคนในปี 2014

ADVERTISMENT

การสำรวจสำมะโนประชากรของเมียนมาดังกล่าวซึ่งจัดขึ้นในเดือนตุลาคม มีเป้าหมายเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปที่รัฐบาลทหารเมียนมาวางแผนว่าจะจัดขึ้นในปีนี้ ซึ่งกลุ่มฝ่ายค้านและฝ่ายต่อต้านออกมาประณามอย่างกว้างขวางว่าเป็นเพียงการหลอกลวง

รัฐบาลทหารเมียนมาเตรียมจะจัดการเลือกตั้งตามที่ให้สัญญาไว้ท่ามกลางความขัดแย้งและความไม่สงบที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ หลังจากที่สถานการณ์ในเมียนมาตกอยู่ในความวุ่นวายมาตั้งแต่ปี 2021 เมื่อกองทัพโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ปราบปรามผู้ประท้วงที่เรียกร้องประชาธิปไตย จุดชนวนให้เกิดการต่อต้านของกลุ่มติดอาวุธทั่วประเทศ ขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมาสูญเสียพื้นที่ในการควบคุมให้กับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2024 ที่ผ่านมาอีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image