วันแรกรับตำแหน่ง ปธน.ทรัมป์ ลงนาม 10 คำสั่ง เขย่าโลก สะเทือนไทย

 

10 คำสั่งทรัมป์เขย่าโลก สะเทือนไทย

1.ถอนตัวจากความตกลงกรุงปารีสแก้ปัญหาโลกร้อน เพิ่มผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิล

การถอนตัวจากข้อตกลงกรุงปารีสอีกครั้งในรัฐบาลทรัมป์ 2.0 โดยมีการส่งจดหมายถึงสหประชาชาติ แจ้งความตั้งใจดั้งกล่าวอย่างเป็นทางการ ทรัมป์ระบุว่า ข้อตกลงปารีสเป็นหนึ่งในข้อตกลงระหว่างประเทศจำนวนหนึ่งที่ไม่สะท้อนถึงค่านิยมของสหรัฐ และนำเงินภาษีของประชาชนสหรัฐไปใช้กับประเทศที่ไม่ต้องการหรือสมควรได้รับความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อประโยชน์ของชาวอเมริกัน ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มการผลิตเชื้อเพลิงจากฟอสซิลในประเทศ

2.ถอนตัวจากองค์การอนามัยโลก (WHO)

ทรัมป์ประกาศถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลกโดยให้เหตุผลว่า WHO รับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และวิกฤตด้านการแพทย์ระหว่างประเทศอื่นๆ ผิดพลาด ล้มเหลวในการดำเนินการอย่างอิสระจากอิทธิพลทางการเมืองที่ไม่เหมาะสมของประเทศสมาชิก และเรียกร้องให้สหรัฐจ่ายเงินอย่างไม่เป็นธรรม เพราะจำนวนเงินที่สหรัฐจ่ายให้กับ WHO มากกว่าประเทศใหญ่อื่นๆ อย่างจีน

“WHO ขูดเลือดขูดเนื้อเรา ทุกคนขูดเลือดขูดเนื้อสหรัฐอเมริกา มันจะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป” ทรัมป์ระบุ

ADVERTISMENT

3.ยึดกรีนแลนด์-คลองปานามา

ทรัมป์พูดถึงเรื่องการซื้อกรีนแลนด์ และยึดคืนคลองปานามามาก่อนหน้านี้ และยังคงยืนยันจุดยืนในทั้งสองประเด็นหลังเข้ารับตำแหน่ง โดยในส่วนของกรีนแลนด์ ทรัมป์ให้เหตุผลว่าสหรัฐจำเป็นต้องควบคุมเกาะที่เป็นดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของสหรัฐ

ขณะที่การคลองปานามากลับคืนมาก็เป็นความจำเป็น พร้อมกล่าวหาจีนว่าได้เข้าควบคุมคลองปานามา “เราไม่ได้ให้มันกับจีน เราให้กับปานามา เรากำลังจะเอามันกลับคืนมา”

4.รื้อโครงสร้างศก. ขึ้นภาษีสินค้าแคนาดา-เม็กซิโก 25% มีผล 1 ก.พ.

สงครามการค้าเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของทรัมป์มาตลอด ทันทีที่รับตำแหน่งทรัมป์ประกาศว่าจะขึ้นภาษีนำเข้า 25% ต่อสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้

ในรัฐบาลทรัมป์ 1.0 มีการขึ้นกำแพงภาษีสินค้าจีนอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ในวันแรกของการดำรงตำแหน่ง ทรัมป์ยังไม่ได้ประกาศนโยบายกีดกันทางเศรษฐกิจกับจีนที่ชัดเจน แต่มีรายงานว่าทรัมป์ได้สั่งให้หน่วยราชการประเมินข้อตกลงที่สหรัฐเคยร่วมลงนามกับจีนในปี 2020 ซึ่งเชื่อว่าจะนำไปสู่มาตรการชุดใหญ่ตามมาในอนาคต

(AP Photo/Matt Rourke)

5.อภัยโทษผู้ก่อจลาจลบุกคองเกรสกว่า 1,500 คน

หนึ่งในประเด็นที่เป็นที่คาดหมาย คือการลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ อภัยโทษให้กับผู้สนับสนุนเขากว่า 1,500 คนที่ก่อจลาจลบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐในวันที่ 6 มกราคม 2021 เพื่อขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ทรัมป์ระบุว่า พวกเขาเป็นตัวประกันที่ต้องได้รับการอภัยโทษอย่างสมบูรณ์ และหวังว่าคนทั้งหมดจะได้ออกจากคุกในคืนวันเดียวกันนี้ เพราะนี่คือสิ่งที่พวกเขาคาดหวัง

6.ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินชายแดนใต้ เนรเทศผู้อพยพผิดกม. ยกเลิกให้สัญญาติโดยกำเนิด

การแก้ปัญหาผู้อพยพเป็นหนึ่งในนโยบายเรือธงของทรัมป์ในช่วงหาเสียง ทันทีที่เสร็จสิ้นพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง ทรัมป์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในชายแดนทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักของผู้อพยพเข้ามาในสหรัฐ และยังระงับการเปิดให้ผู้อพยพลงทะเบียนเข้ามาในสหรัฐด้วยการนัดหมายผ่านออนไลน์ ถือเป็นการเริ่มต้นของสิ่งที่ทรัมป์เรียกว่าเป็นปฏิบัติการที่ในการเนรเทศผู้อพยพหลายล้านคนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ขณะเดียวกันทรัมป์ยังลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารให้ยกเลิกการให้สัญชาติกับทารกที่เกิดในสหรัฐทุกคน ซึ่งทำให้ผู้สนับสนุนสิทธิพลเมืองและผู้อพยพฟ้องร้องรัฐบาลทรัมป์ทันที โดยให้เหตุผลว่าเป็นการดำเนินการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

7.ขยายเวลาบังคับใช้กม.แบน TikTok 75 วัน

ทรัมป์ยังลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารให้ชะลอการบังคับใช้กฎหมายแบนติ๊กต็อก (TikTok) แอปพลิเคชั่นแชร์วิดีโอสั้นยอดนิยม ของบริษัทไบต์แดนซ์ของจีน ออกไป 75 วัน โดยรัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐจะออกคำแนะนำเรื่องการชะลอการบังคับใช้ดังกล่าว เพื่อให้เวลากับรัฐบาลในการหาทางออก ด้วยการปกป้องความมั่นคงของประเทศขณะที่ยังช่วยให้ชาวสหรัฐ 170 ล้านคนสามารถใช้งานติ๊กต็อกได้ต่อไป โดยทรัมป์รับว่าเขารู้สึกดีกับติ๊กต็อก เพราะมันช่วยให้เขาชนะใจคนรุ่นใหม่และได้คะแนนโหวตจากคนหนุ่มสาวจนชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

8.ยกเลิกรับ LGBTQ+ ในหน่วยงานรบ.กลาง – รับคนทำงานตามเพศสภาพแรกเกิด

ขณะที่ไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมสมรสเท่าเทียม รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของทรัมป์กลับประกาศยกเลิกคำสั่งของรัฐบาลไบเดน ด้วยการออกคำสั่งยกเลิกโครงการความหลากหลายในหน่วยงานของรัฐบาลกลาง และกำหนดให้รัฐบาลยอมรับการเข้าทำงานของบุคคลตามเพศสภาพเมื่อแรกเกิดเท่านั้น ส่งผลกระทบกับชาว LGBTQ+ ในสหรัฐอย่างมีนัยสำคัญ

REUTERS

9.ยกเลิกนโยบายคุมปัญญาประดิษฐ์-รถยนต์ไฟฟ้า

ทรัมป์ได้ยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารที่ออกในยุคของรัฐบาลโจ ไบเดน รวม 78 ฉบับ ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือการเพิกถอนนโยบายควบคุมการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เพื่อไม่ให้มีการดำเนินการใดๆ ที่ผิดศีลธรรม รวมถึงนโยบายเกี่ยวกับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ด้วย

10.ประกาศส่งนักบินอวกาศไปดาวอังคาร

ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะส่งนักบินอวกาศไปยังดาวอังคาร ทำให้ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกที่เป็นพันธมิตรสำคัญของทรัมป์ ซึ่งเคยพูดถึงการตั้งอาณานิคมบนดาวเคราะห์ดวงนี้มานานแล้ว ชูกำปั้นขึ้นด้วยความดีใจ ทรัมป์ย้ำว่า ชาติเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้จะได้เห็นตัวเองเป็นประเทศที่กำลังเติบโตอีกครั้ง พร้อมกับการขยายอาณาเขตของตนเอง โดยจะนำธงชาติสหรัฐไปปักบนดาวอังคาร