สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นอร์เวย์กลายเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกแทนเดนมาร์ก ในรายงานความสุขโลกประจำปี 2560 ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 มีนาคม จัดทำโดยเครือข่ายการแก้ปัญหาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (เอสดีเอสเอ็น) อันเป็นความริเริ่มระดับโลกของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2555 โดยรายงานฉบับล่าสุดนี้เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและความเท่าเทียมกันทางสังคม เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของพลเมืองในประเทศตนเอง ขณะที่ไทยอยู่ในอันดับที่ 32 ได้คะแนน 6.424 ขยับขึ้นจากอันดับที่ 33 เมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ ในรายงานฉบับล่าสุด ไทยยังอยู่ในอันดับที่ 19 ของประเทศที่มีความสุขเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2548 อีกด้วย
รายงานระบุว่า ประเทศในภูมิภาคใต้ทะเลทรายซาฮารา หรือซับซาฮารา ในทวีปแอฟริกา รวมถึงซีเรีย และเยเมน เป็นประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุดในโลกในบรรดา 155 ประเทศที่มีการสำรวจในรายงานประจำปีของยูเอ็นฉบับนี้ที่จัดทำขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 5 แล้ว
นายเจฟฟรีย์ แซคส์ ผู้อำนวยการเอสดีเอสเอ็นและที่ปรึกษาพิเศษของสำนักงานเลขาธิการยูเอ็น เปิดเผยว่า ประเทศที่มีความสุขคือประเทศที่มีความสมดุลระหว่างความมั่งคั่ง ทุนทางสังคมที่หมายถึง มีความไว้เนื้อเชื่อใจกันในสังคมสูง ความเหลื่อมล้ำต่ำ และมีความเชื่อมั่นในรัฐบาล ตามเกณฑ์การวัดด้วยรูปแบบที่ได้รับการยอมรับทั่วไป โดยจุดประสงค์ของการจัดทำรายงานฉบับนี้มีขึ้นเพื่อช่วยให้รัฐบาล ธุรกิจ และภาคประชาสังคมมีเครื่องมือเพิ่มขึ้นในการหาทางพัฒนาให้พลเมืองมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกตามการจัดอันดับของรายงานฉบับล่าสุดนี้ต่อจากนอร์เวย์ (7.537 คะแนน) และเดนมาร์ก (7.522 คะแนน) คือไอซ์แลนด์ ในอันดับที่ 3 ตามด้วย สวิตเซอร์แลนด์ ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ แคนาดา นิวซีแลนด์ ออสเตรเลียและสวีเดนในอันดับที่ 10
ขณะที่ประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุด 10 อันดับได้แก่ เยเมน (3.593 คะแนน) ซูดานใต้ ไลบีเรีย กินี โตโก รวันดา ซีเรีย แทนซาเนีย บุรุนดี และสาธารณรัฐแอฟริกากลางในอันดับสุดท้าย (2.693 คะแนน) ส่วนประเทศอื่นๆ อาทิ สหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับที่ 14 เยอรมนี อันดับ 16 สหราชอาณาจักร อันดับ 19 ฝรั่งเศส อันดับ 31 ญี่ปุ่น อันดับ 51 เกาหลีใต้ อันดับ 56 จีน อันดับ 79 อินเดีย อันดับ 122
ด้านประเทศเพื่อนบ้านของไทยในอาเซียนนั้น สิงคโปร์ อยู่ในอันดับที่ 26 มาเลเซีย อันดับ 42 ฟิลิปปินส์ อันดับ 72 อินโดนีเซีย อันดับ 81 เวียดนาม อันดับ 94 พม่า อันดับ 114 และกัมพูชา อันดับ 129
การจัดอันดับของรายงานฉบับนี้ใช้เกณฑ์วัดจาก 6 หัวข้อด้วยกันนั่นคือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติต่อหัว (จีดีพีพีซี) อายุคาดเฉลี่ย เสรีภาพ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การสนับสนุนทางสังคม และการปราศจากการคอร์รัปชั่นในภาครัฐหรือธุรกิจเอกชน
