แพทย์ทดลองเอง ทานอาหารเช้า 5 อย่าง หยุดปัญหาผมบาง-ผมร่วง กระตุ้นรากผม เห็นผลจริง ในเดือนเดียว
ดร.ชีรีน ออกมาเผยเคล็ดลับรักษาปัญหาผมบาง ผมร่วง จากประสบการณ์ตรงที่เธอประสบปัญหาผมบาง ซึ่งสามารถทำตามได้ง่ายไม่ยากใช้เวลาเพียงเดือนเดียว
ตามข้อมูลของ NHS ระบุว่า ผู้หญิงประมาณ 8 ล้านคน และผู้ชายมากกว่า 6 ล้านคนในสหราชอาณาจักรประสบปัญหาผมร่วงหรือผมบางในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
แม้ว่าปัญหาผมบางในมั้งผู้หญิงและผู้ชายอาจจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่สำหรับผู้ประสบปัญหาเหล่านี้อาจเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจอย่างยิ่ง
โดย ดร.ชีรีน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่เป็นที่รู้จักจากการแบ่งปันเคล็ดลับเกี่ยวกับสุขภาพ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านช่องทางติ๊กต็อก เปิดใจถึงเรื่องปัญหาผมบาง บริเวณข้างขมับศีรษะทั้งสองข้างของเธอ พร้อมแชร์วิธีที่เธอรักษาให้ผมกลับมาหนาขึ้นภายในเวลาเพียงเดือนเดียวง่ายๆ แค่ทานอาหารเช้า 5 อย่างนี้
ในคลิปอธิบายว่า เธอไปตรวจเลือดมา และผลตรวจเธอพบว่า เธอขาดธาตุเหล็กจริงๆ และระดับเฟอร์ริติน (ปริมาณธาตุเหล็กสะสมในร่างกาย เป็นตัวชี้วัดที่ดีที่สุดของภาวะขาดธาตุเหล็ก) ของเธอต่ำมาก โดยธาตุเหล็กมีความสำคัญต่อการผลิตฮีโมโกลบิน ซึ่งช่วยให้เม็ดเลือดแดงนำออกซิเจนไปทั่วร่างกาย รวมถึงไปที่หนังศีรษะและรูขุมขน
เมื่อร่างกายมีธาตุเหล็กต่ำ ร่างกายอาจให้ความสำคัญกับอวัยวะที่สำคัญมากกว่า อย่าง หัวใจและปอด มากกว่าการเจริญเติบโตของเส้นผม ซึ่งหากธาตุเหล็กต่ำอาจส่งผลให้รูขุมขนอ่อนแอลง และเส้นผมงอกใหม่ช้าลงได้ ด้วยเหตุนี้เส้นผมจึงอาจหลุดร่วงหรือยาวช้าลง
การขาดธาตุเหล็กอาจทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า ภาวะผมร่วงแบบเทโลเจน หรือภาวะผมร่วงผิดปกติ เกิดจากการที่เส้นผมจำนวนมากเข้าสู่ระยะพัก (Telogen phase) พร้อมกัน ทำให้ผมร่วงมากกว่าปกติ รวมถึงอาการอื่นๆ อาจรวมถึงความเหนื่อยล้าหายใจถี่หัวใจเต้นอย่างเห็นได้ชัด และเกิดผิวซีด
ภายใน “หนึ่งเดือนถึงหกสัปดาห์” หลังจากที่ ดร.ชีรีนรับประทานอาหารเสริมธาตุเหล็กและ “ฟื้นฟูระดับธาตุเหล็ก” ในร่างกายด้วยการปรับการทานอาหาร เธอก็เริ่มสังเกตเห็นการเจริญเติบโตของเส้นผม
5 อาหารเช้าที่มีธาตุเหล็กสูง
1.ผักโขม (มีปริมาณธาตุเหล็ก 2.7 มก. ต่อ 100 กรัม)
2.ไข่ (มีปริมาณธาตุเหล็ก 0.9 มก. ต่อฟอง)
3.เต้าหู้ (ธาตุเหล็ก 1.5 มก. ต่อ 100 กรัม)
4.ธัญพืชเสริมธาตุเหล็ก (มีปริมาณธาตุเหล็ก 10 มก. ต่อ 100 กรัม อาจแตกต่างกันไป)
5.ถั่ว (มีปริมาณธาตุเหล็ก 5 มก. ต่อ 100 กรัม เมื่อปรุงสุก)
ตามข้อมูล NHS แนะนำว่า ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ควรได้รับธาตุเหล็กประมาณ 8.7 มิลลิกรัมต่อวัน สำหรับสตรีที่มีอายุระหว่าง 19-50 ปี ควรบริโภคธาตุเหล็กในปริมาณ 14.8 มิลลิกรัมต่อวัน เนื่องจากการสูญเสียธาตุเหล็กในระหว่างมีประจำเดือน เมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป ความต้องการธาตุเหล็กของผู้หญิงจะลดลงเหลือ 8.7 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งเท่ากับผู้ชา