โพลเผยคะแนนนิยม ‘ทรัมป์’ ลดเล็กน้อย มะกันไม่เอาด้วย เปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโก ถอนตัวข้อตกลงปารีส
เมื่อวันที่ 28 มกราคม ผลโพลรอยเตอร์และอิปซอสส์ระบุว่า คนอเมริกันมีมุมมองที่ไม่ดีต่อคำสั่งฝ่ายบริหารบางเรื่องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ออกมาช่วงแรก ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกการให้สัญชาติกับทารกที่เกิดในสหรัฐและการเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา
ตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่งเมื่อ 20 มกราคม ทรัมป์เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในการปราบปรามผู้อพยพและลดขนาดบุคลากรในรัฐบาลลง ทำให้การตอบรับจากการจัดทำโพล 3 วันที่ปิดสำรวจไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม แสดงให้เห็นว่า ความนิยมที่มีต่อทรัมป์ลดลงมาอยู่ที่ 45% หรือลดลงเล็กน้อยจาก 47% จากการทำโพลก่อนหน้าที่ทำขึ้นในวันที่ 20-21 มกราคม โดยจำนวนผู้ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของทรัมป์เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 46% จาก 39% ในการสำรวจครั้งก่อน ทั้งนี้ โพลดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนประมาณ 4%
นายไคล์ คอนดิก นักวิเคราะห์จากมหาวิทยาลัยซีเอฟพี กล่าวว่า ถึงแม้ทรัมป์ดูเหมือนอยู่ในช่วงฮันนีมูนแต่ตัวเลขที่ออกมากลับไม่น่าประทับใจตามมาตรฐานทางประวัติศาสตร์ ทั้งที่การดำรงตำแหน่งในวาระแรกของเขามีอัตราเห็นชอบสูงถึง 49% ในช่วงสัปดาห์แรกของการเข้าดำรงตำแหน่ง แม้จะจบลงที่ 34% ในวันที่ 6 มกราคม 2021 ก็ตาม
คอนดิกกล่าวว่า อาจจะเร็วเกินไปหากจะประเมินว่าทรัมป์กำลังผลาญทุนทางการเมืองอย่างเปล่าประโยนชน์โดยการมุ่งเน้นไปยังประเด็นที่เขาดำเนินการโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากสาธารณชน เพราะผลโพลก็แสดงให้เห็นเช่นกันว่าการเคลื่อนไหวของทรัมป์ในช่วงต้นได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มผู้สนับสนุนหลักเป็นสำคัญ
คนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการยุติแนวทางปฏิบัติที่มีมาอย่างยาวนานอย่างการให้สัญชาติเด็กที่เกิดในสหรัฐ ถึงแม้พ่อแม่จะไม่มีสถานะการเข้าเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยผู้ตอบแบบสอบถามราว 59% รวมถึงพรรคเดโมแครต 89% และพรรครีพับลิกัน 36% ต่อต้านการยุติการให้สิทธิการเป็นพลเมืองโดยกำเนิด
ถึงแม้ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางสั่งห้ามรัฐบาลทรัมป์ชั่วคราวจากการเปลี่ยนแปลงสิทธิการเป็นพลเมืองโดยกำเนิดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ทำเนียบขาวยังคงให้คำมั่นว่าจะต่อสู้ในเรื่องนี้ต่อไป
ผู้ตอบแบบสอบถาม 70% ยังคัดค้านการเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา มีเพียง 25% ที่สนับสนุนแนวคิดนี้ ในประเด็นการยุติการส่งเสริมด้านความหลากหลายทางชาติพันธุ์ เพศสภาพ และการสั่งปิดสำนักงานที่ดูแลในเรื่องนี้ของรัฐบาลกลางทั้งหมด ผู้ตอบแบบสอบถาม 51% คัดค้าน และ 44% เห็นด้วย
ในประเด็นการสนับสนุนการขยายการขุดเจาะเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบาย 76% ของพรรครีพับลิกันสนับสนุนการผ่อนปรนข้อจำกัดการขุดเจาะ และ 81% ของพรรคเดโมแครตคัดค้าน ด้านผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ 59% กล่าวว่า พวกเขาคัดค้านการที่สหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบอีกว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งยังคงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับราคาอาหาร ที่อยู่อาศัย และสิ่งจำเป็นอื่นๆ ที่เพิ่มสูงขึ้น ราว 50% ระบุว่าประเทศกำลังเดินไปผิดทางในเรื่องค่าครองชีพ โดยมีเพียง 25% ที่เห็นว่ากำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง