มืดแปดด้าน! หาสาเหตุอุบัติเหตุ ฮ.ชนเครื่องบินในวอชิงตันยังไม่พบ ชี้ดับมากสุดรอบ 24 ปี
เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุเมื่อวันที่ 30 มกราคมว่า พวกเขายังไม่สามารถหาสาเหตุที่ชัดเจนว่าเหตุใดเครื่องบินของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์จึงชนเข้ากับเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กกลางอากาศ ใกล้กับสนามบินนานาชาติโรนัลด์ เรแกน เมื่อวันที่ 29 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่น
ทั้งนี้ ไม่มีผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 67 ราย ประกอบด้วยผู้โดยสารและลูกเรือของเที่ยวบินพาณิชย์ทั้ง 64 ราย และผู้โดยสารบนเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กอีก 3 ราย จนทำให้มันกลายเป็นอุบัติเหตุทางอากาศของสหรัฐที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดตั้งแต่ปี 2001 หรือมากที่สุดในรอบ 24 ปี
ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมด แต่ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่าในจำนวนผู้เสียชีวิตมีนักสเก็ตลีลาดาวรุ่งและผู้คนจากรัฐแคนซัสซึ่งเป็นต้นทางของเที่ยวบินดังกล่าว ด้านวุฒิสมาชิกมาเรีย แคนต์เวลล์กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตบนเครื่องบินมีพลเมืองจากรัสเซีย ฟิลิปปินส์ และเยอรมนีอยู่ด้วย ขณะที่สื่อจีนรายงานว่า มีคนสัญชาติจีน 2 คนบนเครื่องบินดังกล่าวด้วย
ทีมสอบสวนของคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติกล่าวว่า พวกเขาจะออกรายงานเบื้องต้นภายใน 30 วัน ขณะนี้เจ้าหน้าที่สืบสวนพบเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบินและเครื่องบันทึกข้อมูลการบินจากเครื่องบินบอมบาร์เดียร์ CRJ700 แล้ว
ด้านสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐกล่าวว่า ทางสำนักงานได้เริ่มรวบรวมซากเครื่องบิน รวมทั้งชิ้นส่วนของเฮลิคอปเตอร์แล้ว และนำมันไปจัดเก็บไว้ที่โรงเก็บเครื่องบินที่สนามบินแห่งชาติเรแกน ด้านสำนักงานดับเพลิงและรับมือเหตุฉุกเฉินของวอชิงตันกล่าวว่า นักประดาน้ำได้ค้นหาทุกพื้นที่ที่เข้าถึงได้ และจะดำเนินการค้นหาเพิ่มเติมเพื่อค้นหาชิ้นส่วนเครื่องบินในวันศุกร์ที่ 31 มกราคมต่อไป
ด้านฌอน ดัฟฟี รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของสหรัฐกล่าวว่า เครื่องบินทั้งสองลำบินตามรูปแบบการบินปกติในวันเกิดเหตุ และไม่พบว่ามีปัญหาเรื่องการสื่อสารขัดข้องแต่อย่างใด
เช่นเดียวกับเกล็น ยังกิน ผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย ที่กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามปกติจนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ สนามบินดังกล่าวตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำจากวอชิงตันในรัฐเวอร์จิเนีย
ที่ทำเนียบขาว ทรัมป์วิจารณ์นักบินเฮลิคอปเตอร์พร้อมกับบอกว่าผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศคือผู้รับผิดชอบต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
“เราไม่ทราบว่าอะไรเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่เรามีความคิดเห็นและแนวคิดที่ชัดเจนมาก” เขากล่าว
ทรัมป์กล่าวหาโจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตว่าทำให้มาตรฐานการจ้างงานต่ำลง โดยอ้างถึงโครงการส่งเสริมความหลากหลายของสำนักงานการบินแห่งชาติ (FAA) ว่าอาจทำให้ความสามารถของหน่วยงานลดลง
เมื่อถูกถามว่าเครื่องบินตกเกิดจากการจ้างงานตามความหลากหลายหรือไม่ เขาตอบว่า “อาจเป็นไปได้”
พีท บุตเดอจิจ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมในยุคไบเดน กล่าวว่า ทรัมป์อ้างถึงนโยบายของ FAA ที่ระบุว่า ความพิการทางร่างกายและจิตใจจะไม่ทำให้ผู้สมัครงานในตำแหน่งผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศถูกตัดสิทธิ์โดยอัตโนมัติ โดยนโยบายเหล่านี้ถูกบังคับใช้ตลอดการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ในระหว่างปี 2017-2021
บุตเดอจิจระบุผ่านโซเชียลว่า คำพูดของทรัมป์นั้น “น่ารังเกียจ” และกล่าวว่า “ในขณะที่ครอบครัวกำลังไว้ทุกข์ ทรัมป์ควรจะเป็นผู้นำ ไม่ใช่โกหก
รัฐบาลทรัมป์ไม่ได้แสดงหลักฐานใดๆ เพื่อสนับสนุนข้อกล่าวอ้างเหล่านี้ และไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่าความพยายามที่จะทำให้พนักงานของรัฐบาลกลางมีความหลากหลายมากขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยทางอากา ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนและพรรคเดโมแครตกล่าวหาว่าเขานำภัยพิบัติครั้งนี้มาเป็นการเมือง
ขณะที่ข้อมูลการสื่อสารทางวิทยุแสดงให้เห็นว่าผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศได้แจ้งเตือนเฮลิคอปเตอร์เกี่ยวกับเครื่องบินที่กำลังเข้าใกล้และสั่งให้เปลี่ยนเส้นทาง อย่างไรก็ดีในระหว่างเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ 1 คนแทนที่จะเป็น 2 คน ทำหน้าที่ดูแลการจราจรทางอากาศและเฮลิคอปเตอร์ในพื้นที่สนามบินแห่งชาติเรแกน แม้สถานการณ์ดังกล่าวถือว่า “ไม่ปกติ” แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับปริมาณการจราจรทางอากาศที่ลดลง
นิวยอร์กไทม์สรายงานเป็นครั้งแรกว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศขณะเกิดเหตุนั้นถือว่าไม่ปกติ แต่แหล่งข่าวที่เปิดเผยข้อมูลในเรื่องนี้ระบุว่า การลดจำนวนเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศในช่วงเย็นไม่ใช่เรื่องแปลก
การขาดแคลนเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศในสหรัฐอเมริกาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทำให้เกิดข้อกังวลด้านความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศในสถานที่หลายแห่งต้องทำงานล่วงเวลาและทำงานสัปดาห์ละ 6 วันเพื่อชดเชยการขาดแคลน โดยมีจำนวนน้อยกว่าที่ควรจะมีประมาณ 3,000 คน