พบกล่องดำเที่ยวบินมรณะอเมริกันแอร์ไลน์แล้ว สื่อมุ่งประเด็นขาดแคลนจนท.คุมจราจร
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 30 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นว่า เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนของสหรัฐได้พบกล่องดำ 2 ใบ ซึ่งเป็นกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินและกล่องบันทึกข้อมูลทางการบินของเครื่องบินโดยสารสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์แล้ว หลังเที่ยวบินดังกล่าวซึ่งบรรทุกผู้โดยสาร 60 คนและลูกเรือ 4 คน ประสบเหตุชนกลางอากาศกับเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กของกองทัพอากาศสหรัฐที่มีทหารบนเครื่อง 3 นาย บริเวณสนามบินนานาชาติโรนัลด์เรแกน ในวอชิงตัน ก่อนตกลงสู่แม่น้ำโปโตแมค เมื่อวันที่ 29 มกราคม จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 67 ราย
คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติ(เอ็นทีเอสบี)ของสหรัฐ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนพบกล่องดำทั้ง 2 ใบของเครื่องบินโดยสารลำดังกล่าวที่เป็นรุ่นบอมบาร์เดียร์ CRJ700 แล้ว คาดว่าจะรายงานผลการสอบสวนเบื้องต้นเกี่ยวกับอุบัติเหตุดังกล่าวได้ภายใน 30 วัน
ท็อด อินแมน สมาชิกเอ็นทีเอสบี กล่าวว่า สำหรับเฮลิคอปเตอร์ทหารลำดังกล่าวได้ติดตั้งอุปกรณ์บันทึกภาพบางอย่าง ซึ่งกระทรวงกลาโหมหรือทางเอ็นทีเอสบีจะทำการอ่านข้อมูลเหล่านั้น นอกจากนี้เอ็นทีเอสบีได้เริ่มรวบรวมเก็บกู้ซากเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุและนำไปเก็บไว้ยังโรงเก็บเครื่องบินของสนามบินนานาชาติโรนัลด์เรแกน
ขณะที่กรมดับเพลิงและเหตุกฉุกเฉินวอชิงตัน ระบุว่า นักประดาน้ำได้เข้าตรวจค้นหาพื้นที่ที่เข้าถึงได้ทั้งหมดแล้ว และจะดำเนินการค้นหาเศษชิ้นส่วนเครื่องบินอื่นๆ ต่อไปในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น
ด้านนาย ฌอน ดัฟฟี รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของสหรัฐ กล่าวว่า เครื่องบินทั้งสองลำใช้รูปแบบการบินตามมาตรฐาน และการสื่อสารก็ไม่มีปัญหาใดๆ
ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวโดยไม่มีหลักฐานว่า ความพยายามด้านความหลากหลายของรัฐบาลกลางอาจเป็นปัจจัยหนึ่งของเหตุการณ์นี้ โดยย้ำประเด็นที่กลายเป็นจุดสนใจของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา ซึ่งกลุ่มสิทธิและพรรคเดโมแครตชี้ว่าทรัมป์กำลังทำให้ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นเรื่องการเมือง นอกจากนี้ทรัมป์ยังกล่าววิจารณ์นักบินประจำเฮลิคอปเตอร์ทหารลำดังกล่าวและแนะว่าผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศควรถูกตำหนิ
ขณะที่บันทึกทางวิทยุสื่อสารแสดงให้เห็นว่าผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศได้แจ้งเตือนเฮลิคอปเตอร์ถึงเครื่องบินโดยสารที่กำลังใกล้เข้ามาและสั่งให้เปลี่ยนเส้นทางบินแล้ว
ส่วนสื่อรายใหญ่ของสหรัฐอย่างนิวยอร์กไทมส์รายงานมุ่งประเด็นที่ไม่ปกติเกี่ยวกับการขาดแคลนพนักงานควบคุมการบิน
อย่างไรก็ดีรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวเปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุมีผู้ควบคุมการจราจรเพียงคนเดียวแทนที่จะเป็น 2 คน ในการจัดการจราจรทางอากาศของเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ในคืนเกิดเหตุที่สนามบินโรนัลด์เรแกน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ถือว่าไม่ปกติ แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับปริมาณการจราจรที่น้อยลง
ทั้งนี้ประเด็นการขาดแคลนเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศในสหรัฐอเมริกาในช่วงไม่กี่มานี้ ทำให้เกิดความกังวลด้านความปลอดภัย ซึ่งที่สนามบินหลายแห่ง ผู้ควบคุมจะต้องทำงานล่วงเวลาและทำงานหกวันต่อสัปดาห์เพื่อชดเชยการขาดแคลนกำลังบุคลากร โดยสำนักงานการบินแห่งชาติ(เอฟเอเอ)ของสหรัฐ มีเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศน้อยกว่าที่ต้องการประมาณ 3,000 คน