สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาระบุว่า นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามผ่านร่างกฎหมายห้ามนำเข้าสินค้าที่ผลิตด้วยแรงงานบังคับเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นความพยายามล่าสุดในการใช้พลังของตลาดสหรัฐในการต่อสู้กับการใช้แรงงานทาสทั่วโลก
รายงานระบุว่าสินค้าผลิตด้วยแรงงานบังคับตั้งแต่ปลา เรื่อยไปจนถึงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และโกโก้ จะไม่อนุญาติให้นำเข้ามายังสหรัฐอเมริกา นับเป็นการปิดช่องโหว่ทางกฎหมายเดิมของสหรัฐที่จะไม่นำเข้าสินค้าที่มาจากแรงงานทาส แต่กลับมีข้อยกเว้นให้สามารถนำเข้าได้หากความต้องการเกินกำลังการผลิตในประเทศ ขณะที่การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวสหรัฐจะใช้ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐที่มีข้อมูลสินค้าแยกกลุ่มประเทศ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะผลิตด้วยแรงงานบังคับ
ด้านนายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่สหรัฐได้บังคับใช้ รัฐบัญญัติการอำนวยความสะดวกและการบังคับใช้ทางการค้า ค.ศ. 2015 ในวันเดียวกันระบุว่ากฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้กับสินค้าที่เข้าสู่สหรัฐจากทุกประเทศ ครอบคลุมหลากหลายมิติเกี่ยวกับการค้า ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับอุตสาหกรรมประมง และมิได้มีผลบังคับเฉพาะเจาะจงกับประเทศไทยหรือสินค้าจากอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งของไทย
“กฎหมายนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทยที่ไม่ได้ใช้แรงงานผิดกฎหมาย และมีกระบวนการผลิตที่โปร่งใสตรวจสอบได้ เพราะสินค้าไทยต่าง ๆ ที่สหรัฐนำเข้าเสมือนได้รับการประกันว่าปราศจากปัญหาเรื่องแรงงาน โดยจะเป็นที่ต้องการของตลาดสหรัฐมากยิ่งขึ้น ซึ่งย่อมเป็นผลดีกับภาพลักษณ์สินค้าด้วยอีกทางหนึ่ง”นายเสขกล่าว
นายเสขกล่าวว่า ในการประชุมสุดยอดอาเซียน – สหรัฐ สมัยพิเศษที่เพิ่งผ่านมา นายกรัฐมนตรีย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยที่จะแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ และแรงงานบังคับ โดยเฉพาะในภาคประมง และกล่าวถึงการแก้ไขกฎหมายข้างต้นว่า ไทยมีเป้าหมายเดียวกันในการแก้ไขปัญหาแรงงานบังคับ และหวังว่าหน่วยงานของสหรัฐจะนำเอากฎหมายนี้ไปปฏิบัติด้วยความโปร่งใส เพื่อไม่ให้กลายเป็นมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี