เทียบให้ดูชัดๆ ถูกกว่ากันเท่าไหร่ หลังใช้รถไฟฟ้า Cybertruck ระยะทางหมื่น กม. ใน 6 เดือน
รถไฟฟ้า กลายเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ที่ใครหลายคนมักมองหา เมื่อตัดสินใจอยากซื้อรถสักคัน โดยไม่ต้องคอยพะวงเรื่องค่าน้ำมันที่จะดีดขึ้นลงตามสถานการณ์โลก นอกเหนือจากนี้ การใช้รถไฟฟ้ายังตอบโจทย์ปัญหามลพิษทางอากาศได้ดีกว่ารถสันดาป นั่นจึงเป็นเหตุผลคร่าวๆ ที่ใครหลายคนเลือกใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่จะถูกใจคนใช้รถไฟฟ้ามากที่สุดคงไม่พ้น เรื่องน้ำมัน สื่อต่างประเทศ ได้ยกเคส หนุ่มรายหนึ่งที่ได้เปิดเผยราคา ค่าชาร์จไฟของรถเทสลาไซเบอร์ทรัค (Tesla Cybertruck) อย่างน่าเหลือเชื่อ หลังใช้มา 6 เดือน โดยเจ้าตัวใช้เดินทางไปต่างจังหวัด ระยะทางประมาณ 1 หมื่นไมล์ หรือ 16,000 กิโลเมตร


ชายคนนี้ มีชื่อว่า Bilal Sattar เขาเล่าว่า สามารถประหยัดเงินได้อย่างมหาศาล ด้วยนวัตกรรมของอีลอน มัสก์ ซีอีโอบริษัทเทสลา เมื่อต้นปี 2024 ที่ผ่านมา Bilal ได้แชร์ค่าใช้จ่าย ในการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าของเขาบนแพลตฟอร์ม X โดยเผยว่า ภายในระยะเวลา 6 เดือน เขาได้เดินทางเป็นระยะทางราว 10,000 ไมล์
เขากล่าวว่า ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว เขาใช้เงินเติมพลังงานให้กับไซเบอร์ทรัคไปเพียง 573.55 ดอลลาร์ หรือ 19,000 บาท ขณะที่หากเป็นรถยนต์ใช้น้ำมันที่มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเท่ากัน ราคาน้ำมันจะอยู่ที่ 4 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ทำให้ค่าใช้จ่ายจะพุ่งสูงถึง 2,392 ดอลลาร์ หรือประมาณ 8 หมื่นบาท
โดยเขาได้อนุมานไว้ว่า สามารถประหยัดค่าเชื้อเพลิงไปได้มากถึง 1,800 ดอลลาร์ หรือราว 6 หมื่นบาทเลยทีเดียว ทั้งนี้เจ้าตัวได้นำข้อมูลดังกล่าวมาแชร์ พร้อมกับภาพหน้าจอจากแอพพ์เทสลาที่ช่วยให้เจ้าของรถสามารถติดตามยอดเงินที่พวกเขาประหยัดได้ จากการใช้พลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมัน

อย่างไรก็ตาม หลายคนก็บอกว่า Bilal เป็นคนมีเทคนิคในการประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างแยบยล แม้แต่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าตัวยงต่างยอมรับว่า ตัวเลขค่าใช้จ่ายของเขาต่ำกว่าปกติมาก
นอกจากนี้ Bilal มักจะวางแผนจอดชาร์จแบตเตอรี่ตามสถานีที่ให้บริการชาร์จฟรี ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากในปัจจุบัน และเขายังใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการชาร์จไฟ ซึ่งช่วยลดต้นทุนพลังงานลงไปอีก ดังนั้น เมื่อชาร์จรถที่บ้าน ค่าใช้จ่ายอาจต่ำกว่าคนส่วนใหญ่ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ เทสลาเคยเรียกคืนรถยนต์กว่า 240,000 คัน เนื่องจากปัญหากล้องที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรง โดยรุ่นที่ได้รับผลกระทบคือ เทสลา โมเดล 3 3 ปี 2024-2025 รวมถึง Model X และ Model Y ปี 2023-2025โดยทางบริษัทกำลังเรียกคืน เพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหาดังกล่าว
