สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานในวันพุธ(22 มี.ค.)ว่า บริษัทภาพยนตร์แห่งชาติคูเวตตัดสินใจประกาศห้ามฉายภาพยนตร์แฟนตาซีเรื่อง “บิวตี้ แอนด์ เดอะ บีสต์” ของดิสนีย์ เมื่อวันอังคาร(21 มี.ค.)ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเป็น”ความรับผิดชอบ” ทั้งๆที่ทางบริษัทได้มีการกลั่นกรองเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้มาแล้ว หลังตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในหลายประเทศมุสลิมก่อนหน้านี้จากกรณีที่หนังเรื่องนี้มีฉากของตัวละครแสดงถึงความเป็นพวกรักร่วมเพศ
ทั้งนี้ หนังเรื่องนี้เข้าโรงฉายในประเทศคูเวต รัฐมุสลิมหัวอนุรักษนิยมเมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ทางบริษัทภาพยนตร์แห่งชาติคูเวตที่นำหนังเรื่องนี้เข้ามาฉาย ตัดสินใจถอดหนังเรื่องนี้ออกเพื่อทบทวนดูเนื้อหาของหนังใหม่ ก่อนจะตัดสินใจประกาศห้ามฉายหนังเรื่องนี้หลังจากเผชิญกระแสต่อต้านผ่านทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น โดยในการตัดสินใจแบนหนังเรื่องดังกล่าว บริษัทภาพยนตร์แห่งชาติคูเวตให้เหตุผลว่า เป็นหน้าที่รับผิดชอบและหลักการของทางบริษัทที่มีต่อลูกค้าที่เป็นเยาวชน
อย่างไรก็ดี แม้ภาพยนตร์เรื่อง บิวตี้ แอนด์ เดอะ บีสต์ ที่มีเอ็มมา วัตสัน นักแสดงสาวชื่อดัง แสดงนำ จะตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักกรณีมีฉากของตัวละครที่เป็นเกย์ คือ ตัวละครชื่อ “เลอ ฟู” และ “แกสตัน” ก็ตาม ทว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ทำลายสถิติหนังทำเงินของบ็อกซ์ออฟฟิศในการเข้าฉายสัปดาห์แรก โดยทำเงินได้ 175.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการเข้าฉายแทบอเมริกาเหนือ และทำรายได้รวมทั้งหมดอยู่ที่ 357 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว