‘ทรัมป์’ จ่อเก็บภาษีรถยนต์นำเข้า มีผล 2 เม.ย.นี้
สำนักข่าวนิวยอร์กไทมส์และรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ว่าเขามีแผนที่จะจัดเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าจากต่างชาตินับตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนนี้ อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่ได้ให้ข้อมูลว่าภาษีรถยนต์ต่างชาติจะมีจำนวนกี่เปอร์เซ็นต์ และประเทศใดบ้างที่จะตกเป็นเป้าหมายของการจัดเก็บภาษีดังกล่าวของทรัมป์
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารดังกล่าวในห้องทำงานรูปไข่ นับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้งในวันที่ 20 มกราคม เขาได้ประกาศขึ้นภาษีจำนวนมาก เช่น ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมด 10% ก่อนที่จะเลื่อนออกไปเป็นเวลา 1 เดือน และเรียกเก็บภาษี 25% แก่สินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและสินค้านำเข้าที่ไม่ใช่พลังงานจากแคนาดาซึ่งถูกเลื่อนออกไปเช่นกัน และขึ้นภาษี 25% แก่เหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้ามาในสหรัฐทั้งหมดในวันที่ 12 มีนาคม และล่าสุดได้ประกาศให้ทีมเศรษฐกิจของเขาร่างแผนคิดภาษีศุลกากรตอบโต้แก่ทุกประเทศที่จัดเก็บภาษีสินค้าของสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่ได้ให้รายละเอียดถึงเจตนาของการจัดเก็บภาษีรถยนต์ต่างชาติ แต่ทรัมป์คิดว่ารถยนต์ที่ส่งออกจากสหรัฐได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในตลาดต่างประเทศมานานแล้ว เช่น สหภาพยุโรปคิดภาษีรถยนต์นำเข้าจากสหรัฐ 10% สูงกว่าสหรัฐที่คิดภาษีรถยนต์นำเข้าจากยุโรปเพียง 2.5% แม้ว่าสหรัฐจะคิดภาษีรถบรรทุกขนาดเล็กที่นำเข้ามาจากต่างประเทศสูงถึง 25%
นายจิม ฟาร์ลีย์ ซีอีโอร่วมของฟอร์ด โพสต์ลงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ X ภายหลังการประกาศของทรัมป์ว่า เราเห็นด้วยกับแนวคิดของทรัมป์ในการพิจารณาเรื่องรถยนต์นำเข้ามาในสหรัฐทั้งหมด ถือเป็นการก้าวไปข้างหน้า