เขย่าเพนตากอน! ‘ทรัมป์’ ปลดฟ้าผ่า ปธ.เสนาธิการทหาร-5 บิ๊กเหล่าทัพ ลอยแพจนท.อีกกว่าครึ่งหมื่น
เพนตากอน หรือกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา งานเข้าครั้งใหญ่เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่เหนื่อยกับการสั่งปลดกำลังคนในหน่วยงานต่างๆ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เขาได้สั่งปลดพลอากาศเอก ซี.คิว. บราวน์ ออกจากตำแหน่งประธานเสนาธิการทหารร่วม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ปรึกษาทางทหารระดับสูงสุดในเพนตากอน และนายพลอีก 5 นาย ที่เป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงออกจากตำแหน่ง ในการปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ระดับสูงในเพนตากอนครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ทรัมป์โพสต์ลง Truth Social โซเชียลมีเดียของตนเอง ประกาศว่าเขาจะตั้งพลโทแดน เรซิน เคน อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านกิจการทหารประจำสำนักข่าวกรองกลาง (CIA) ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเสนาธิการทหารร่วมแทน
เพนตากอนระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ยังจะแต่งตั้งบุคคลขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนพลเรือเอก ลิซา เอ็ม. แฟรนเกตตี ผู้บัญชาการยุทธนาวี ซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ที่ถูกสั่งปลดออกไปพร้อมกับรองประธานเสนาธิการกองทัพอากาศ ผู้พิพากษาทั่วไปแห่งกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศด้วย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งเปิดเผยว่า คำสั่งปลดพลอากาศเอกบราวน์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผิวสีคนที่ 2 ที่ได้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาทางทหารระดับสูงสุดของประธานาธิบดีสหรัฐนั้นจะมีผลในทันที แม้ก่อนที่วุฒิสภาจะรับรองบุคคลที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งต่อจากเขา
นอกจากนี้ ยังจะมีการปลดเจ้าหน้าที่เพนตากอนออกอีก 5,400 คน ส่วนหนึ่งของแผนการตัดลดเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางของทรัมป์เพื่อลดรายจ่ายของรัฐบาล โดยการลดจำนวนเจ้าหน้าที่เพนตากอนดังกล่าวที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า เป็นการลดลงเพียงน้อยจากจำนวนการเลิกจ้างในกระทรวงกลาโหมสหรัฐที่คาดว่าจะมีถึง 50,000 ตำแหน่ง แต่การลดลงนี้อาจไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
ดาริน เซลนิก เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งกล่าวว่า เพนตากอนจะหยุดการจ้างงานและอาจตัดลดจำนวนเจ้าหน้าที่พลเรือนที่มีอยู่ 950,000 คน ลงราว 5-8%
การตัดลดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างรัฐบาลครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้การกำกับดูแลของอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจ ที่ทรัมป์ได้แต่งตั้งให้เป็นผู้นำกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) อันเป็นคณะทำงานที่ปรึกษาของรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลการปฏิรูปรัฐบาลให้มีขนาดเล็กแต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมัสก์ได้ทำการเลิกจ้างเจ้าหน้าที่รัฐและพนักงานจ้างไปแล้วกว่า 20,000 คน และมีการยุบโครงการต่างๆ ของรัฐบาลไปแล้วหลายโครงการตั้งแต่ด้านการช่วยเหลือต่างประเทศไปจนถึงการกำกับดูแลทางการเงิน
ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า การปลดบุคลากรผิวสีคนที่ 2 ที่ดำรงตำแหน่งสูงสุดในกองทัพสหรัฐ และผู้หญิงคนแรกที่ดำรงตำแหน่งในคณะเสนาธิการร่วม ดูเหมือนจะเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนจากรัฐบาลทรัมป์ในการทำให้การดำเนินการเกี่ยวกับความหลากหลายและการมีส่วนร่วมเป็นสิ่งต้องห้ามในกองทัพและรัฐบาลในวงกว้าง
