UN ชี้ อิสราเอลย่ำยีสิทธิมนุษยชน สุดเลวร้ายในฉนวนกาซา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายโวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ได้กล่าว เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ว่ารายงานฉบับใหม่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในฉนวนกาซา เวตส์แบงก์ และเยรูซาเล็มตะวันออก ระบุว่าอิสราเอลได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนจากปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซาอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
นายเติร์กกล่าวว่า ไม่มีอะไรสามารถให้ความชอบธรรมแก่การกระทำที่น่ากลัวจากการที่อิสราเอลมีปฏิบัติการทางทหารในกาซาซึ่งละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ฉนวนกาซาได้รับความเสียหายอย่างมาก ตั้งแต่บ้านเรือนไปจนถึงโรงพยาบาลและโรงเรียน อีกทั้งข้อจำกัดต่างๆ ที่ออกโดยอิสราเอลได้ก่อให้เกิดหายนะทางด้านมมนุษยธรรม
นอกจากนั้น เติร์กกล่าวถึงข้อกังวลว่ากลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาอาจกระทำการซึ่งละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมในกาซาอีกครั้ง รวมถึงเจตนาย้ายสิ่งของด้านการทหารไปอยู่ท่ามกลางพลเมืองชาวปาเลสไตน์ หลังจากที่ฮามาสได้ยิงจรวดเข้ามาในดินแดนของอิสราเอลโดยไม่เลือกเป้าหมายจนนำไปสู่อาชญากรรมสงคราม
นายเติร์กได้เรียกร้องให้มีการสอบสวนการละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยชนต่างๆ อย่างอิสระ อย่างไรก็ตาม เติร์กได้ตั้งข้อสงสัยถึงความมุ่งมั่นของระบบยุติธรรมของอิสราเอลในการเอาผิดผู้กระทำความผิดอย่างสอดคล้องไปกับมาตรฐานสากล และไม่ทราบว่าฮามาสและกลุ่มอื่นๆ ได้ใช้มาตรการในการลงโทษผู้ที่ละเมิดกฎหมายด้านสิทธิหรือไม่
นักรบของกลุ่มฮามาสได้เปิดฉากโจมตีชุมชนทางตอนใต้ของประเทศอิสราเอลในวันที่ 7 ตุลาคม ปี 2023 โดยได้ฆ่าประชาชนไปประมาณ 1,200 คนรวมถึงจับกุมตัวตัวประกันไปมากกว่า 250 คน ขณะที่กองทัพอิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีฉนวนกาซาจนสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง และส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 48,000 คนเสียชีวิต โดยอิสราเอลได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาอาชญากรรมสงครามและการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศทั้งในฉนวนกาซาและเขตเวสต์แบงก์ โดยให้เหตุผลว่าปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลพุ่งเป้าไปยังนักรบของฮามาสและพยายามลดอันตรายต่อพลเรือนในพื้นที่แล้ว